มิติหุ้น – มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เผยปัจจัยการเกิดวิกฤตหนี้ครัวเรือนไทยที่พุ่งสูงถึง 16.2 ล้านล้านบาท มูลค่าเฉลี่ยหนี้ครัวเรือน 539,291 บาท/คน ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการขาดความรู้และทักษะทางการเงินของคนไทย ทำให้การก่อหนี้และการบริหารจัดการรายได้–รายจ่ายเป็นไปอย่างไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นเพื่อยกระดับความรู้ทางการเงิน มธ.จึงเดินหน้าผลักดันหลักสูตรใหม่ด้านการลงทุนและการเงินในระบบการศึกษาไทยด้วย Financial Literacy ตั้งเป้าสร้างพลเมืองการเงินที่เข้มแข็ง มีวินัยการออม เข้าใจการลงทุน และสามารถวางแผนทางการเงินได้อย่างยั่งยืน ลดปัญหาหนี้เรื้อรังและสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว
รศ. ดร.ดำรงค์ อดุลยฤทธิกุล รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ประเทศไทยยังคงเผชิญกับปัญหาหนี้ครัวเรือนในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลจากเครดิตบูโรและธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่า ณ ไตรมาสแรกปี 2568 มูลหนี้ครัวเรือนรวมสูงถึงกว่า 16.2 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 87.4% ของ GDP ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานสากลที่กำหนดไว้ไม่เกิน 80% มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยสถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนถึงโครงสร้างเศรษฐกิจที่เปราะบาง และกลายเป็น “กับดักหนี้” ที่ฉุดรั้งคุณภาพชีวิตของครัวเรือนและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ และไม่เพียงแต่ปริมาณหนี้ที่เพิ่มสูง แต่คุณภาพของหนี้ยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากกว่า 2 ใน 3 ของหนี้ครัวเรือนทั้งหมดเป็นหนี้เพื่อการบริโภค ไม่ได้ก่อให้เกิดรายได้ เช่น หนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ขณะที่หนี้เพื่อการลงทุนในสินทรัพย์ที่เพิ่มมูลค่า เช่น บ้าน หรือธุรกิจ กลับมีสัดส่วนเพียง 4% เท่านั้น ทำให้ภาระหนี้กลายเป็นวงจรที่กัดกินกำลังซื้อและลดทอนความสามารถในการออมของครัวเรือน
สำหรับในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ปัญหาหนี้ยิ่งทวีความรุนแรง ข้อมูลจากเครดิตบูโรระบุว่า 1 ใน 2 ของคน Gen Z ที่เพิ่งเริ่มทำงานมีหนี้สินแล้ว และที่น่ากังวลคือกว่า 1 ใน 4 ของคนกลุ่มนี้เป็นหนี้เสีย (NPL) ซึ่งถือเป็นอัตราสูงที่สุดเมื่อเทียบกับเจเนอเรชันอื่น ๆ ปัจจัยสำคัญเกิดจากพฤติกรรมการใช้จ่ายที่ได้รับอิทธิพลจากสื่อสังคมออนไลน์ รวมถึงการเข้าถึงบัตรเครดิตและสินเชื่อที่ง่ายดาย จึงส่งผลกระทบให้คนรุ่นใหม่ตกอยู่ในกับดักหนี้เร็วขึ้นและยากต่อการฟื้นตัว ขณะเดียวกันระดับหนี้ครัวเรือนที่สูง ยังส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อสังคมไทยในเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจไทย ทั้งการลดลงของกำลังซื้อประชาชน ความสามารถในการออม ตลอดจนการบังคับให้ครัวเรือนจำนวนมากต้องตัดค่าใช้จ่ายที่จำเป็น เช่น การรักษาพยาบาลหรือการศึกษา เพื่อหันไปชำระหนี้แทน สิ่งเหล่านี้กลายเป็นวงจรลบที่สะท้อนถึงความเปราะบางและความไม่มั่นคงของเศรษฐกิจในระยะยาว
“หนี้ครัวเรือนไทยคือภัยเงียบที่กัดกร่อนชีวิตผู้คนทั้งในวัยเรียน วัยทำงาน และแม้กระทั่งวัยเกษียณ โดยพบว่าผู้สูงอายุจำนวนมากยังมีหนี้เฉลี่ยกว่า 400,000 บาท และเสี่ยงกลายเป็นหนี้เสีย ขณะที่คนรุ่นใหม่ก็ติดกับดักการใช้จ่ายเกินตัวตั้งแต่ยังเรียนหนังสือ ปัญหาเหล่านี้ไม่เพียงทำลายคุณภาพชีวิต แต่ยังสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อระบบเศรษฐกิจไทยโดยรวม
รศ. ดร.ดำรงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ม.ธรรมศาสตร์จึงขับเคลื่อนการแก้ปัญหานี้ด้วย “ความรู้ทางการเงิน” หรือ Financial Literacy หลักสูตรใหม่เพื่อปลูกฝังความเข้าใจด้านการเงินและการลงทุนให้แก่นักศึกษา โดยตั้งเป้าว่าภายในปี 2570 บัณฑิตทุกคนจะต้องผ่านการเรียนหลักสูตรนี้ก่อนออกสู่ตลาดแรงงาน ซึ่งเนื้อหาของหลักสูตร Financial Literacy ครอบคลุมตั้งแต่การวางแผนเป้าหมายทางการเงินระยะสั้น กลาง และยาว การออมอย่างมีระบบ การทำความเข้าใจภาษีและกฎหมายเกี่ยวข้องกับหนี้ ไปจนถึงการลงทุนในสินทรัพย์สมัยใหม่ เช่น เงินดิจิทัล คริปโทเคอร์เรนซี และผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ ๆ นอกจากนี้ในหลักสูตร ยังบรรจุเนื้อหาด้านพฤติกรรมเศรษฐศาสตร์ เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจถึงแรงจูงใจและหลุมพรางทางการเงินในยุคดิจิทัล เช่น การใช้จ่ายตามกระแส “ของมันต้องมี” หรือโปรโมชั่น “ผ่อน 0%” นอกจากนี้ ธรรมศาสตร์ยังได้ร่วมมือพัฒนาหลักสูตรกับสถาบันการเงินและตลาดทุนชั้นนำอีกหลากหลายองค์กร เพื่อพัฒนาวิชาเลือกเพิ่มเติมด้านการลงทุน โดยมีเป้าหมายให้นักศึกษาได้ทั้งความรู้เชิงทฤษฎีและการปฏิบัติจริง อันจะเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างทัศนคติทางการเงินที่มั่นคง อาทิเช่น
- มธ.201 ความรู้ทางการเงินสำหรับบุคคล (SET) ปูพื้นฐานการวางแผนการเงินส่วนบุคคล การจัดการรายรับรายจ่าย การออมและการลงทุนขั้นต้น ผ่านรูปแบบ E-Learning
- มธ.202 ครบเครื่องเรื่องลงทุน (SET) แนะนำเครื่องมือการลงทุนหลากหลาย ตั้งแต่หุ้น พันธบัตร กองทุน ไปจนถึงการสร้าง Mindset การลงทุนที่ยั่งยืน เพื่อเตรียมพร้อมสู่โลกการลงทุนจริง เรียนผ่านระบบ E-Learning
- มธ.301 การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) เจาะลึกการลงทุนหุ้น กองทุนรวม ตลอดจน Derivative Warrant (DW) พร้อมฝึกการวิเคราะห์ผ่านโปรแกรม Streaming ของตลาดหลักทรัพย์ เรียนผ่าน E-Learning
- มธ.283 นวัตกรรมบล็อกเชนและคริปโทเคอร์เรนซี (Gulf Binance) รายวิชาใหม่ล่าสุด เปิดโลกการลงทุนยุคดิจิทัล ตั้งแต่พื้นฐานการใช้บล็อกเชนไปจนถึงการลงทุนในคริปโทฯ และ Digital Assets เรียนได้ทั้ง Online & Onsite
- มธ.309 การลงทุนแบบมืออาชีพ (Bangkok Bank) มุ่งเน้นการลงทุนเชิงลึกในสินทรัพย์หลากหลายประเภท พร้อมเวิร์กช็อปและการบรรยายจากผู้เชี่ยวชาญภาคการเงิน เปิดสอนแบบ Onsite
“พลเมืองการเงินที่เข้มแข็งไม่เพียงหมายถึงการมีทักษะการลงทุน แต่ต้องหมายถึงการมีวินัยทางการเงิน รู้จักวางแผน รับมือกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ และไม่ตกเป็นเหยื่อของหนี้นอกระบบ หากประชาชนมีพื้นฐานเหล่านี้ ประเทศก็จะมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจที่มั่นคงและยั่งยืน อย่างไรก็ดี การสร้างพลเมืองการเงินที่มีความรู้ ยังมีผลเชิงสังคมในวงกว้าง เพราะจะช่วยลดอัตราการผิดนัดชำระหนี้ ลดหนี้เสียในระบบการเงิน เพิ่มอัตราการออมและการลงทุนของครัวเรือน และช่วยลดภาระการอุดหนุนจากภาครัฐในอนาคต ขณะเดียวกันยังเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศผ่านการมีประชากรที่มีรากฐานการเงินแข็งแกร่ง”
หลักสูตร Financial Literacy เป็นมาตรการ “วัคซีนทางการเงิน” ที่จำเป็นต้องฉีดให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบางก่อน ไม่ว่าจะเป็นเด็กจบใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่ตลาดแรงงาน พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือผู้สูงอายุ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันทางการเงิน ลดความเสี่ยงที่จะตกอยู่ในวงจรหนี้เสีย หลายประเทศ เช่น ออสเตรเลียและสิงคโปร์ ได้พิสูจน์แล้วว่าการบรรจุวิชาความรู้ทางการเงินตั้งแต่ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ช่วยสร้างวินัยการออมและลดอัตราการก่อหนี้ที่ไม่จำเป็นได้จริง ซึ่งประเทศไทยสามารถนำแนวปฏิบัติเหล่านี้มาเป็นต้นแบบในการพัฒนาได้ รศ. ดร.ดำรงค์ กล่าวทิ้งท้าย
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon