มิติหุ้น – Investment Strategy
• สรุปภาพรวมตลาด ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (25 ส.ค.) โดย นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ หรือ ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูผลประกอบการของบริษัทผลิตชิป AI รายใหญ่อย่างอินวิเดีย (Nvidia) ในสัปดาห์นี้ด้วย
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 45,282.47 จุด ลดลง 349.27 จุด หรือ -0.77%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,439.32 จุด ลดลง 27.59 จุด หรือ -0.43%, และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 21,449.29 จุด ลดลง 47.24 จุด หรือ -0.22%
• สรุปภาพรวมสินทรัพย์อื่นๆ ภาพดังกล่าวสะท้อนไปยังสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ โดย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1 ดอลลาร์ หรือ 0.03% ปิดที่ 3,417.50 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.07 ดอลลาร์ หรือ 1.58% ปิดที่ 68.80 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าสหรัฐฯ จะออกมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อรัสเซีย รวมทั้งข่าวยูเครนโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของรัสเซีย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมัน
• SET Index :
สำหรับตลาดหุ้นไทย เรามองกรอบดัชนีวันนี้ที่ 1,250-1,270 จุด โดย ดัชนีมีโอกาสพักตัวหลังรับรู้ประเด็น Jackson Hole และ รอคอยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ (ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) / ผลประกอบการของบริษัทผลิตชิป AI รายใหญ่อย่างอินวิเดีย (Nvidia))
สำหรับประเด็นในประเทศ กระทรวงพาณิชย์ รายงาน มูลค่าการส่งออกสินค้าของไทยขยายตัว 11% yoy และ มูลค่าการนำเข้าสินค้าขยายตัว 5.1% yoy ในเดือนก.ค. 2025 เติบโตลดลงจากเดือนมิ.ย. 2025 แต่ยังสูงกว่าที่เรา/Bloomberg consensus คาดไว้ เราคาดว่ามูลค่าการส่งออกสินค้าในปี 2025 จะขยายตัว 2.5% yoy และ การค้าระหว่างประเทศน่าจะพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดใน 2Q25 ไปเรียบร้อยแล้วก่อนที่มาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐจะมีผลในเดือนส.ค. 2025
สำหรับประเด็นการเมือง เราคิดว่าตลาดจะไม่แปลกใจหากนายกฯ แพทองธารถูกตัดสินว่ามีความผิดในวันที่ 29 สิงหาคม แต่หากศาลตัดสินว่าไม่ผิด ตลาดหุ้นไทยน่าจะตอบรับในเชิงบวก
ในอีกประเด็น เราก็เชื่อว่าตลาดก็คาดหวังว่าอดีตนายกฯ ทักษิณจะถูกตัดสินว่ามีความผิดเช่นกัน ดังนั้น สิ่งนี้จึงไม่น่าจะทำให้ตลาดประหลาดใจเช่นกัน
หุ้นแนะนำ
GULF: GULF กำลังดำเนินกลยุทธ์การเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากโครงการพลังงานหมุนเวียนที่หลากหลาย การขยายธุรกิจ LNG และรายได้จากสินทรัพย์หลักในปี 2568 นอกเหนือจากปัจจัยกระตุ้นหลักแล้ว เราคาดว่าการเติบโตจะมาจากส่วนสนับสนุนจาก Jackson และธุรกิจศูนย์ข้อมูลที่กำลังขยายตัว
(Take profit : 48.75 / Stop loss : 47.75)
PTTEP: PTTEP ทำกําไรสุทธิ 13,515 ล้านบาทใน 2Q25 สอดคล้องกับประมาณการ Bloomberg consensus พร้อมกันนี้ PTTEP ประกาศเข้าร่วมลงทุนในแปลง A-18 ในมาเลเซีย ซึ่งจะทำให้ NPV ของบริษัทเพิ่มขึ้น 2.4 บาท/หุ้น
(Take profit : 115.00 / Stop loss : 113.00)
#CGSInternational
#CGSI
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
