มิติหุ้น – Key Highlights :
- มูลค่าส่งออกเดือน ก.ค. เติบโต 0%YoY ชะลอตัวจากเดือนก่อนที่ 15.5%YoY โดยการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมยังคงขยายตัวต่อเนื่อง สอดคล้องกับสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ที่เติบโตดี ขณะที่การส่งออกไปตลาดหลักต่างขยายตัว ด้านการนำเข้าชะลอจากเดือนก่อนมาอยู่ที่ 5.1%YoY ขณะที่ดุลการค้าเกินดุล +322.1 ล้านดอลลาร์ฯ
- Krungthai COMPASS มองว่าแม้การส่งออกจะได้อานิสงค์จากการ Front-loading ช่วงที่ผ่านมา แต่ตัวเลขการส่งออกล่าสุดในเดือน ก.ค. ที่หดตัว 0.24%MoM ติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 บ่งชี้ถึงแรงส่งที่อ่อนแอลงและจะทยอยชัดขึ้นระยะข้างหน้า ทั้งการเก็บ Sectoral Tariff ในสินค้าบางกลุ่มเพิ่มเติม แนวทางการจัดเก็บ Transshipment Tariff ที่ยังไม่ชัด การ de-stocking สินค้าที่เคยเร่งนำเข้า รวมถึงการแย่งตลาดส่งออกใหม่ทดแทนสหรัฐฯ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนกดดันการส่งออกของไทยในระยะถัดไป
ฉมาดนัย มากนวล
กฤตตฤณ เหล่าฤทธิ์
Krungthai Compass
มูลค่าส่งออกเดือน ก.ค. 2568 ขยายตัว 11.0%YoY
มูลค่าส่งออกเดือน ก.ค. อยู่ที่ 28,580.7 ล้านดอลลาร์ฯ เติบโต 11.0%YoY ชะลอตัวจาก 15.5%YoY ในเดือนก่อน โดยการส่งออกสินค้ากลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมและสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรขยายตัวต่อเนื่อง สำหรับการส่งออกทองคำในเดือนนี้กลับมาหดตัว 14.7%YoY หลังจากเติบโตต่อเนื่องมา 9 เดือน ทำให้เมื่อหักทองคำแล้วมูลค่าส่งออกเดือนนี้ขยายตัว 12.3%YoY โดยมีแรงขับเคลื่อนที่สำคัญจาก
- การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัว0%YoY ชะลอลงจาก 17.6%YoY ในเดือนก่อน โดยสินค้าสำคัญที่เติบโต ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (+61.0%) แผงวงจรไฟฟ้า (+54.9%) เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ (+44.1%) ผลิตภัณฑ์ยาง (+9.7%) ผลิตภัณฑ์พลาสติก (+28.8%) และรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (+2.3%) เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว อาทิ อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด (-44.0%) และเครื่องรับวิทยุ โทรทัศน์ และส่วนประกอบ (-17.7%) เป็นต้น
- การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรขยายตัว 9%YoY ชะลอตัวจากเดือนก่อนที่ขยายตัว 13.5%YoY โดยสินค้าเกษตรขยายตัว 21.5%YoY ในขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมเกษตรหดตัว 0.2%YoY สวนทางจากเดือนก่อนที่ขยายตัว 17.4%YoY โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัวสูง ได้แก่ ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง (+107.7%) ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่น ๆ (+21.8%) และผลไม้กระป๋อง และแปรรูป (+12.9%) เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัวในเดือนนี้ ได้แก่ ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ (-28.5%) ยางพารา (-19.9%) ข้าว (-16.3%) ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง (-12.6%) และอาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป (-3.4%) เป็นต้น
การส่งออกรายตลาดสำคัญ ส่วนใหญ่ยังขยายตัวจากการส่งออกอิเล็กทรอนิกส์เป็นสำคัญ
- สหรัฐฯ: ขยายตัว 4%YoY เติบโตติดต่อกันเป็นเดือนที่ 22 โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว อาทิเครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์ และส่วนประกอบเครื่องจักรกล และส่วนประกอบ ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น อุปกรณ์กึ่งตัวนำทรานซิสเตอร์ และไดโอด และรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เป็นต้น
- จีน: ขยายตัว 1%YoY เติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง เครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์ และส่วนประกอบ ด้านสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น ยางพารา ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ เป็นต้น
- ญี่ปุ่น: ขยายตัว 1%YoY เติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น ไก่สดแช่เย็น แช่แข็ง เม็ดพลาสติก เป็นต้น
- EU27: ขยายตัว 6%YoY เติบโตติดต่อกันเป็นเดือนที่ 14 โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และแผงวงจรไฟฟ้า เป็นต้น
- ASEAN-5: ขยายตัว 6%YoY เติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น อัญมณีและเครื่องประดับ น้ำมันสำเร็จรูป เป็นต้น
- มูลค่าการนำเข้าเดือน ก.ค. อยู่ที่ 28,258.6 ล้านดอลลาร์ฯ เติบโต 1%YoY ชะลอตัวจาก 13.1%YoY เมื่อเดือนก่อน การนำเข้าสินค้าหลายหมวดยังขยายตัว ทั้งสินค้าทุน (+23.3%YoY) สินค้ายานพาหนะฯ (+2.1%YoY) สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป (+11.3%YoY) สินค้าอุปโภคบริโภค (+5.5%YoY) ขณะที่การนำเข้าสินค้าเชื้อเพลิงหดตัว (-35.5%YoY) ทั้งนี้ ดุลการค้าเดือน ก.ค. เกินดุล +322.1 ล้านดอลลาร์ฯ
Implication:
- Krungthai COMPASS มองว่าแม้การส่งออกจะได้รับอานิสงค์จากการ Front-loading ช่วงที่ผ่านมา แต่เมื่อเทียบรายเดือนแล้ว มูลค่าการส่งออกล่าสุดเดือน ก.ค. หดตัว 24%MoM ติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 สะท้อนแรงส่งที่อ่อนแอลง และคาดว่าจะทยอยชัดเจนขึ้นระยะข้างหน้า แม้การส่งออกช่วง 7 เดือนแรกจะโตเฉลี่ย 14.4%YoY แต่เริ่มมีสัญญาณแผ่วลง หากพิจารณารายสินค้า พบว่า สินค้าสำคัญบางรายการชะลอลง อาทิ อลูมิเนียม ซึ่งเป็นกลุ่มที่ถูกจัดเก็บ Sectoral Tariff ขณะที่กลุ่มสินค้าซึ่งได้รับผลกระทบจากภาษีศุลกากรตอบโต้อัตราใหม่ (เริ่ม 7 ส.ค.) บางตัว อาทิ ผลิตภัณฑ์ยาง และเคมีภัณฑ์ ต่างอยู่ในทิศทางที่ทรงตัว ในเชิงตลาด การส่งออกไทยไปยังตลาดหลักทั้งสหรัฐฯและจีนในเดือน ก.ค. หดตัวลง 0.3%MoM และ 2.2%MoM ตามลำดับ โดยกลับมาติดลบพร้อมกันเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน บ่งชี้ถึงผลเชิงลบของสงครามการค้ารอบใหม่ที่เริ่มชัดเจนมากขึ้น
โมเมนตัมการส่งออกที่อ่อนแรงยังสะท้อนจากยอดส่งออกของตลาดสำคัญอื่นๆ อาทิ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกที่แผ่วลง โดยเฉพาะมูลค่าการส่งออกไปยังตลาดฮ่องกงและเกาหลีใต้ซึ่งมีแนวโน้มปรับตัวลง
- จับตาความเสี่ยงหลายด้านที่จะเข้ามากดดันการส่งออกไทยในช่วงที่เหลือของปี ทั้งการเก็บ Sectoral Tariff ในสินค้าบางกลุ่มเพิ่มเติม อาทิ เซมิคอนดักเตอร์1 แนวทางการจัดเก็บ Transshipment Tariff ที่ยังไม่ชัดเจน การ de-stocking ของผู้ประกอบการที่เคยเร่งนำเข้าเอาไว้ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลต่อคำสั่งซื้อที่ลดลงระยะข้างหน้า ทิศทางการส่งออกของจีนหลังจากข้อตกลงเลื่อนการจัดเก็บภาษีกับสหรัฐฯ ครบกำหนดในเดือน พ.ย. 68 โดยอาจส่งผลให้การแย่งตลาดส่งออกใหม่ทดแทนสหรัฐฯ รุนแรงขึ้น ปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นอุปสรรคที่เพิ่มแรงกดดันต่อการส่งออกของไทยในระยะถัดไป
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon