TISCO ESU : กำไรภาคอุตสาหกรรมของจีน (Industrial profits) หดตัวน้อยลงในเดือน ก.ค. จากแรงหนุนของ High-tech sectors

8
Source: Bloomberg, TISCO Economic Strategy Unit (TISCO ESU)
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) รายงานว่า กำไรภาคอุตสาหกรรมของจีน (Industrial profits) ปรับลดลง -1.5% YoY ในเดือน ก.ค. ซึ่งน้อยกว่าการลดลง -4.3% ในเดือน มิ.ย. โดยสำหรับใน 7 เดือนแรกของปี 2025 กำไรภาคอุตสาหกรรมหดตัวน้อยลงเหลือ -1.7% YoY จาก -1.8% ในช่วงครึ่งปีแรก โดยการเติบโตของกำไรในภาคเทคโนโลยีขั้นสูง (High-tech sectors) ช่วยชดเชยความอ่อนแอในอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่ยังคงเผชิญกับอุปสงค์ที่ซบเซาและแรงกดดันจากภาวะเงินฝืด
  • แรงหนุนหลักของกำไรภาคอุตสาหกรรมในเดือน ก.ค. มาจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งในภาคเทคโนโลยีขั้นสูง (High-tech sectors) โดยพบว่ากำไรในภาคเทคโนโลยีขั้นสูง (High-tech sectors) พุ่งขึ้น +18.9% YoY ในเดือน ก.ค. ฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่ปรับลดลง -0.9% ในเดือน มิ.ย. โดยการพลิกฟื้นนี้ช่วยดันตัวเลขกำไรโดยรวมขึ้นราว +2.9 จุดเปอร์เซ็นต์
  • นอกจากนี้ กำไรในภาคการผลิต (Manufacturing sectors) เติบโต +6.8% YoY ในเดือน ก.ค. เร่งตัวขึ้นจาก +1.4% ในเดือน มิ.ย. โดยอุตสาหกรรมที่ได้รับประโยชน์จากโครงการ “Trade-in program” ของรัฐบาลที่ให้เงินอุดหนุนเพื่อส่งเสริมการอัปเกรดเครื่องจักรการผลิตและสินค้าอุปโภคบริโภคถือมีส่วนสำคัญต่อการขยายตัวของกำไรภาคอุตสาหกรรมในเดือน ก.ค. ด้วย
  • หากแยกตามประเภทอุตสาหกรรม พบว่าอุตสาหกรรมปลายน้ำ (Downstream sectors) มีกำไรเพิ่มขึ้น +3.8% YoY ในเดือน ก.ค. เร่งตัวขึ้นจาก +0.2%YoY ในเดือน มิ.ย. ขณะที่ในฝั่งของอุตสาหกรรมต้นน้ำ (Upstream sectors) ยังเผชิญกับกำไรที่ลดลง -13.5%YoY ในเดือน ก.ค. หดตัวต่อเนื่องจาก -15.8%YoY ในเดือน มิ.ย. ทั้งนี้ กำไรในอุตสาหกรรมการผลิตวัตถุดิบ (Raw material manufacturing) ปรับเพิ่มขึ้น 36.9% YoY ในเดือน ก.ค. (จาก -5%YoY ในเดือน มิ.ย.) ซึ่งสอดคล้องกับราคาสินค้าโภคภายในประเทศที่ปรับสูงขึ้น (เช่น เหล็กและถ่านหิน) และสะท้อนผลจากนโยบาย “ต่อต้านการแข่งขันทางราคาที่รุนแรงในภาคอุตสาหกรรม” (Anti-involution policies) ของรัฐบาล อย่างไรก็ดี ข้อมูลกำไรภาคอุตสาหกรรมยังมีความผันผวน และการฟื้นตัวในเดือน ก.ค. เพียงเดือนเดียวอาจยังเร็วเกินไปที่จะสรุปประสิทธิผลของมาตรการดังกล่าว
  • แรงกดดันเงินฝืดยังเป็นปัญหาสำคัญของเศรษฐกิจจีน โดยดัชนี GDP Deflator ซึ่งเป็นมาตรวัดระดับราคาในระบบเศรษฐกิจได้ปรับลดลงต่อเนื่องเป็นระยะเวลาติดต่อกันถึง 9 ไตรมาส สะท้อนถึงความเปราะบางของระดับราคาภายในประเทศ จากการฟื้นตัวของอุปสงค์ภายในประเทศที่ยังเปราะบาง ขณะที่ภาคธุรกิจต้องเผชิญกับการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง โดยมีการลดราคาสินค้าเพื่อกระตุ้นยอดขายในหลายอุตสาหกรรม ส่งผลให้ระดับราคาสินค้าและกำไรของภาคธุรกิจปรับลดลงต่อเนื่อง ขณะที่สัดส่วนของบริษัทที่ขาดทุนได้ปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2000 ส่งผลให้เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ทางการจีนได้ประกาศมาตรการ Anti-involution เพื่อจำกัดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมและแก้ไขปัญหากำลังการผลิตส่วนเกินในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ระดับราคาสินค้าและกำไรในภาคอุตสาหกรรมปรับลดลงต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ ประสิทธิภาพของมาตรการดังกล่าวต้องอาศัยความร่วมมือจากภาคธุรกิจเอกชนในการยินยอมลดกำลังการผลิตลง เนื่องจากอุตสาหกรรมที่มีปัญหากำลังการผลิตส่วนเกินในปัจจุบันได้แพร่กระจายจากอุตสาหกรรมต้นน้ำสู่อุตสาหกรรมเกิดใหม่ที่เป็นของภาคเอกชน ซึ่งทำให้การสั่งลดกำลังการผลิตจากทางการอาจทำได้ยากและเห็นผลช้ากว่าการปฏิรูปด้านอุปทานในอดีตช่วงปี 2015
Today’s Data Releases
  • ยูโรโซน: ยอดจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ (New Car Registrations) เดือน ก.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Consumer Confidence) เดือน ส.ค.
  • สหรัฐฯ: GDP Annualized ไตรมาส 2/2025 และยอดขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) สิ้นสุดสัปดาห์ ณ วันที่ 23 ส.ค.
Key economic indicators
Source: Bloomberg, TISCO Economic Strategy Unit (TISCO ESU)

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon