มิติหุ้น-TEGH โดยบล.หยวนต้า(ประเทศไทย) ระบุว่า ธุรกิจยางพารา คาดปริมาณขายสูงขึ้น หลังจากอัตราภาษีสหรัฐฯมีความชัดเจน ทำให้ลูกค้าแอคทีฟในการสั่งซื้อมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าจะไม่สามารถชดเชยกับราคาขายเฉลี่ยที่ปรับลดลงได้ ส่งผลให้GPM ของธุรกิจยางพาราคาดจะชะลอลงทั้ง QoQและYoY ตามราคายางSICOM ที่ปรับลง และคาดหวังการฟื้นตัวของราคาขายยางในQ4/68
ผู้บริหารมีมุมมองว่าราคายางSICOM ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว คาดราคาขายทยอยฟื้นตัวในQ4/68 เป็นต้นไป และคาดจะเริ่มมีคำสั่งยางEUDR เข้ามามากขึ้นในQ4/68 โดยปัจจุบันยังได้พรีเมียมสูงกว่ายางปกติราว 8-10%
ปัจจุบันเริ่มเห็นลูกค้าที่ชะลอคำสั่งซื้อกลับเข้ามาจองคำสั่งซื้อล่วงหน้ามากขึ้น ขณะที่ปัจจัยกังวลจากการสวมสิทธิ์ส่งออกไปสหรัฐฯ บริษัทมองไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจยางของบริษัท เนื่องจากวัตถุดิบเกือบทั้งหมดต้องใช้จากในประเทศ
ธุรกิจน้ำมันปาล์มดิบ(CPO) คาดยังมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่อง แม้ปริมาณผลผลิตปาล์มเริ่มลดลงQoQ แต่ยังถือว่าอยู่ในระดับที่ดี และจะรับรู้ผลของการติดตั้งBroiler ที่หนุนประสิทธิภาพการผลิต และหนุนYield การสกัดปาล์มได้ดีขึ้น ทำให้เราประเมินว่า ธุรกิจCPO ยังอยู่แนวโน้มการเทิร์นอะราวด์
ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน(TEBP) ได้ลูกค้าBiogas ใหม่เป็นบริษัทพลังงานจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศจีนที่เข้ามาก่อตั้งโรงงานในพื้นที่นิคมของTEGH คาดช่วยหนุนการรับรู้รายได้และผลประกอบการ ขณะที่การSpin Off TEBP คาดว่าจะเข้าตลาดอย่างเร็วช่วงปลายปี 68 และอย่างช้าในช่วงต้นปี 69 เป็นUpside ต่อการปลดล็อกมูลค่าธุรกิจ หนุนการเติบโตของธุรกิจพลังงานหมุนเวียนได้มากขึ้น และช่วยลดต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายของบริษัท
กำไรปกติครึ่งแรกปี 68 คิดเป็น 51% ของประมาณการทั้งปี ปี 68 ของเราที่ 723 ลบ. โต 21.2% ทำให้คงประมาณการไว้ตามเดิม ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายบน PEต่ำเพียง 4.7 เท่า และคาดหวัง Div. Yield ได้ที่ 8.5% คงคำแนะนำซื้อ เชิงกลยุทธ์อาจรอจังหวะเข้าลงทุนอีกครั้งหลังงบ Q3/68 ออก ราคาเป้าหมายที่ 5 บาท
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
