CGSI : Investment Strategy

9

มิติหุ้น – Investment Strategy
• สรุปภาพรวมตลาด ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเล็กน้อยในวันพุธ (3 ก.ย.) แต่ดัชนี Nasdaq พุ่งกว่า 1% และ S&P500 ปิดในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากหุ้นอัลฟาเบท (Alphabet) รวมทั้งความหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 45,271.23 จุด ลดลง 24.58 จุด หรือ -0.05%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,448.26 จุด เพิ่มขึ้น 32.72 จุด หรือ +0.51% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 21,497.73 จุด เพิ่มขึ้น 218.10 จุด หรือ +1.02%

• สรุปภาพรวมสินทรัพย์อื่นๆ สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่วันพุธ (3 ก.ย.) หลังการเปิดเผยข้อมูลแรงงานล่าสุดของสหรัฐฯ โดย กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ลดลง 170,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 7.18 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ค. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 7.38 ล้านตำแหน่ง

ทำให้นักลงทุนมีความหวังมากขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากรและความกังวลเกี่ยวกับความเป็นอิสระของเฟด ยังคงเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 1.54 ดอลลาร์ หรือ 2.23% ปิดที่ 67.60 ดอลลาร์/บาร์เรล ท่ามกลางความวิตกกังวลว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส อาจตัดสินใจเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในการประชุมวันอาทิตย์นี้

• SET Index : เราคาดการณ์กรอบ SET Index ในวันนี้ ณ ระดับ 1,250-1,275 จุด คลายความกังวลหลัง ‘พ.ร.ฎ.ยุบสภา’ ถูกตีกลับ และ ในวันศุกร์นี้ (5 ก.ย.) สภาบรรจุวาระ เลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 สนับสนุน “อนุทิน ชาญวีรกูล”

ในด้านปัจจัยต่างประเทศ จับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ (5 ก.ย.) ซึ่งส่งผลต่อมุมมองเศรษฐกิจ และ ดอกเบี้ยของสหรัฐฯ

หุ้นแนะนำ
STECON:
เราแนะนำซื้อ STECON เพราะเชื่อว่าผลประกอบการในไตรมาสถัดๆไปจะยังคงแข็งแกร่ง ที่ราคาเป้าหมาย 8.50 บาท ซึ่งคิดเป็น P/B ที่ระดับ 0.68x ในปี FY26 หรือ -1.25SD จากค่าเฉลี่ย 10 ปี
(Take profit : 7.60 / Stop loss : 7.25)

CKP:
เราคาดการณ์ผลประกอบการตามฤดูกาลที่แข็งแกร่งในปี 2568F โดย NN2 และ XPCL จะผลักดันกำไรในช่วงครึ่งหลังของปี 2568F และ อาจหลีกเลี่ยงผลขาดทุนสุทธิในไตรมาสแรกของปี 2569F

เราปรับเพิ่มกำไรสุทธิหลักในปี 2568F ขึ้น 50% โดยได้รับแรงหนุนจากกำลังการผลิตพลังน้ำที่แข็งแกร่งและต้นทุนทางการเงินที่ลดลง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นอัตรากำไรสุทธิให้เติบโต
(Take profit : 2.86 / Stop loss : 2.74)

#CGSInternational
#CGSI

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon