มิติหุ้น – บริษัท เอ็นแอล ซูเปอร์แท็กซ์ จำกัด (มหาชน) เผยผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs กว่า 95% ได้รับผลกระทบจากการเป็นลูกหนี้กรรมการ เพราะไม่แยกเงินส่วนตัวออกจากเงินบริษัท ยืนยันการนำเงินบริษัทออกไปใช้ส่งผลกระทบและความเสี่ยงด้านภาษี แนะวิธีนำเงินออกไปใช้อย่างถูกต้องและส่งผลดีต่อธุรกิจ
นายนิพนธ์ งามทรัพย์ทวีคูณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นแอล ซูเปอร์แท็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NL SUPER TAX เปิดเผยว่า จากประสบการณ์ในการทำงานที่ปรึกษาด้านบัญชีและภาษีให้กับผู้ประกอบการกว่า 200 บริษัท พบว่าเจ้าของธุรกิจ SMEs ร้อยละ 95 ไม่แยกเงินส่วนตัวออกจากเงินบริษัทอย่างชัดเจน และได้นำเงินบริษัทไปใช้ส่วนตัว ฝ่ายบัญชีจึงบันทึกเป็นลูกหนี้กรรมการ ซึ่งทำให้เกิดความเสี่ยงทางภาษีและเป็นปัญหาใหญ่กับผู้ประกอบการที่นำเงินไปใช้ เนื่องจากสรรพากรมองว่าเป็นเงินได้ที่ต้องเสียภาษี หากเจ้าของนำเงินบริษัทไปใช้โดยไม่มีดอกเบี้ย สรรพากรอาจตีความว่าเงินที่เอาออกไปใช้เป็นเงินได้พึงประเมิน ซึ่งต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในอัตราก้าวหน้าสูงสุด 35% พร้อมเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม หากสรรพากรตีความเป็นเงินได้บริษัทฯ ต้องรับผิดชอบการหักภาษี ณ ที่จ่าย หากไม่ได้หักบริษัทต้องรับผิดชอบจ่ายภาษีแทนกรรมการพร้อมเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม แต่ถ้าสรรพากรประเมินว่าเป็นเงินปันผล อาจตีความว่าเป็นการจ่ายเงินปันผลโดยไม่ผ่านมติที่ประชุม ทำให้ต้องเสียภาษีเงินได้ในอัตรา 10 % ของเงินปันผล
“กรณีศึกษาเรื่องลูกหนี้กรรมการที่ทำให้เกิดปัญหาขึ้นภายหลัง เจ้าของร้านอาหารรายหนึ่งนำเงินบริษัทไปใช้ส่วนตัวและบันทึกเป็นลูกหนี้กรรมการสะสมกว่า 5 ปี รวมเป็นเงิน 8 ล้านบาท โดยไม่มีการคิดดอกเบี้ยหรือทำสัญญาเงินกู้ เมื่อถูกสรรพากรตรวจสอบจึงถูกประเมินภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาย้อนหลัง พร้อมเบี้ยปรับและเงินเพิ่มรวมกว่า 4 ล้านบาท” นายนิพนธ์กล่าวและให้คำแนะนำในการป้องกันปัญหาเรื่องลูกหนี้กรรมการว่า หากเจ้าของธุรกิจนำเงินบริษัทไปใช้ส่วนตัว สามารถทำได้โดยการกำหนดเงินเดือนและค่าตอบแทนที่เหมาะสม รวมทั้งต้องมีการหักภาษี ณ ที่จ่ายถูกต้อง เพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัท
นอกจากนี้แล้วการนำเงินบริษัทออกไปใช้ส่วนตัวยังสามารถทำเป็นสัญญาเงินกู้ระหว่างกรรมการกับบริษัท และต้องทำเป็นสัญญาเงินกู้ที่มีเงื่อนไขชัดเจน เช่น คิดดอกเบี้ยในอัตราตลาดไม่ต่ำกว่า MLR ของธนาคารพาณิชย์ กำหนดระยะเวลาชำระคืนที่แน่นอน และต้องมีการจ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยตามกำหนด ที่สำคัญบริษัทต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย 1% จากดอกเบี้ยที่จ่าย และยังมีวิธีเจ้าของบริษัทนำเงินออกไปใช้ได้อย่างปลอดภัย ในรูปแบบการจ่ายเงินปันผลอย่างถูกต้อง มีการประชุมผู้ถือหุ้นและมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผล และต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย 10% อย่างไรก็ตาม หากจัดการเรื่องการเงินระหว่างเจ้าของกับบริษัทอย่างถูกต้อง ไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยงทางภาษีแต่ยังทำให้งบการเงินสะท้อนความเป็นจริงของธุรกิจมากขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากเมื่อต้องการขอสินเชื่อหรือการหาพันธมิตรทางธุรกิจ หากต้องการปรึกษาด้านบัญชีและภาษีสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 096-974-4164 หรือ https://www.facebook.com/people/NL-Supertax/61558643228763/
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon