การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ครบรอบ 65 ปี Move For The Future “Smart Technology & Sustainable

13

มิติหุ้น – ดร.มงคล ตรีกิจจานนท์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค แถลงผลการดำเนินงาน เนื่องในโอกาสการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคครบรอบ 65 ปี 28 กันยายน 2568 โดยมีผู้บริหาร และ พนักงาน ร่วมงานแถลงข่าว ณ ห้องประชุมสุวรรณภูมิ ชั้น 6 อาคาร 4 สำนักงานใหญ่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

65 ปี ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) เริ่มต้นจากการบุกเบิกนำไฟฟ้าสู่ประชาชน เร่งรัดพัฒนาไฟฟ้าสู่ชนบทส่งเสริมความเจริญสู่ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมจนสามารถขยายเขตระบบจำหน่ายไฟฟ้าให้บริการประชาชนอย่างทั่วถึงในพื้นที่รับผิดชอบ 74 จังหวัดทั่วประเทศ (ยกเว้น กรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรปราการ) พัฒนาองค์กรเพื่อก้าวสู่ระดับสากลในธุรกิจพลังงาน พัฒนาคุณภาพระบบไฟฟ้าและการบริการ ตอบสนองความคาดหวังของลูกค้า สร้างคุณค่าสู่สังคม สิ่งแวดล้อมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ขับเคลื่อนองค์กรสู่ Digital Utility พร้อมพัฒนาปรับเปลี่ยนด้านพลังงานตามความต้องการของลูกค้า ยกระดับโครงข่ายไฟฟ้าให้มีความทันสมัยรองรับพลังงานสะอาดและเดินหน้าบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพด้วยระบบไฟฟ้าอัจฉริยะ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอยู่คู่กับชุมชนอย่างยั่งยืน ตามวิสัยทัศน์ “ไฟฟ้าอัจฉริยะ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน” (Smart Energy for Better Life and Sustainability)

PEA มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน โครงการขยายเขตไฟฟ้าให้ครัวเรือนรายใหม่ (คฟม.) PEA ขยายเขตให้สำหรับบ้านที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้และอยู่ห่างจากแนวสายไฟฟ้าเดิม จำนวน 50,000 บาทต่อ 1 ครัวเรือน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โครงการขยายเขตไฟฟ้าเพื่อการเกษตร (คฟก.) PEA ขยายเขตไฟฟ้าไปยังพื้นที่ทำกิน เพื่อให้เกษตรกรสามารถใช้เครื่องมือทางการเกษตรที่ใช้ไฟฟ้าได้ เช่น เครื่องสูบน้ำ ซึ่งมีต้นทุนถูกกว่าการใช้น้ำมัน

  • โครงการพัฒนา Microgrid และ BESS ระบบไฟฟ้าขนาดเล็กอิสระที่เชื่อมต่อกับระบบโครงข่ายไฟฟ้าหลัก (Grid) โดยมี BESS (Battery Energy Storage System) เป็นหัวใจหลักในการกักเก็บและจ่ายไฟฟ้า ซึ่ง BESS คือระบบแบตเตอรี่ที่ใช้กักเก็บพลังงานไฟฟ้าจากแหล่งต่างๆ และจ่ายคืนกลับสู่ระบบเมื่อจำเป็น โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความมั่นคงของระบบไฟฟ้า ลดการสูญเสียพลังงาน และรองรับการใช้พลังงานหมุนเวียนในพื้นที่ห่างไกล
  • โครงการพัฒนาระบบไฟฟ้าให้พื้นที่เกาะต่างๆ ที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ เพื่อขยายการให้บริการพลังงานไฟฟ้าให้หมู่บ้านต่างๆ บนเกาะจำนวน 11 เกาะ (เกาะขามใหญ่ จังหวัดชลบุรี เกาะจิก จังหวัดจันทบุรี เกาะช้าง เกาะพยาม จังหวัดระนอง เกาะกระเต็น จังหวัดสุราษฎร์ธานี เกาะไม้ไผ่ จังหวัดพังงา เกาะโหลน จังหวัดภูเก็ต เกาะหมากน้อย จังหวัดพังงา เกาะฮั่ง เกาะปอ จังหวัดกระบี่ และ เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล) ลดความเหลื่อมล้ำเพิ่มขีดความสามารถสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชน
  • โครงการจัดหาไฟฟ้าให้กลุ่มบ้านในพื้นที่ห่างไกล ด้วยระบบพลังงานแสงอาทิตย์พร้อมระบบกักเก็บพลังงาน พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในประเทศ ให้มีความเท่าเทียม เข้าถึงระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลให้มีไฟฟ้าใช้ครอบคลุมทุกครัวเรือน พร้อมติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ ระบบกักเก็บพลังงานและระบบไฟฟ้าแรงต่ำ ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมาย 10 กลุ่มบ้านๆ ละ ไม่ต่ำกว่า 80 ครัวเรือน

การดำเนินการด้านธุรกิจ PEA Climate Solution

  • ใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน (REC) PEA จัดหาใบรับรองเครดิตการผลิตพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificate:REC) สำหรับองค์กรที่มีเป้าหมายจะมุ่งสู่ความยั่งยืน หรือความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ที่ได้กำหนดเป้าหมายการใช้พลังงานสะอาดและองค์กรที่ได้รับผลกระทบการส่งออกจากมาตรการควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
  • บริการไฟฟ้าสีเขียว (UGT) อัตราค่าบริการไฟฟ้าสีเขียว Utility Green Tariff (UGT) คืออัตราค่าบริการไฟฟ้าที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถเลือกใช้ไฟฟ้าที่มาจากพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม โดยที่ยังคงได้รับไฟฟ้าที่มีคุณภาพ มั่นคง และเชื่อถือได้เหมือนเดิม โดยลูกค้าสามารถเลือกซื้อไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานหมุนเวียน 100% ได้ พร้อมกับได้รับใบรับรองพลังงานหมุนเวียน หรือ REC ตามมาตรฐาน I-REC ของ The International Tracking Standard Foundation : ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้ภาคเอกชนสามารถบรรลุเป้าหมาย Carbon Neutrality และตอบสนองความต้องการของห่วงโซ่อุปทานสากลที่เรียกร้องให้ใช้พลังงานสะอาด ซึ่งปัจจุบัน PEA เปิดให้บริการ UGT1 (อัตราค่าบริการไฟฟ้าสีเขียว แบบไม่เจาะจงแหล่งมา) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะเปิดให้บริการ UGT2 (อัตราค่าบริการไฟฟ้าสีเขียว แบบเจาะจงแหล่งมา) ในเร็วๆ นี้
  • CARBONFORM PEA พัฒนาแพลตฟอร์ม CARBONFORM เพื่อประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กร พร้อมเชิญชวนให้ผู้ใช้ไฟฟ้าที่เป็นนิติบุคคลในพื้นที่รับผิดชอบของ PEA 74 จังหวัด ใช้งานแพลตฟอร์ม CARBONFORM ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้องค์กรต่างๆ บริหารจัดการการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างมีประสิทธิภาพ และแพลตฟอร์ม CARBON MICE จัดการคาร์บอนสำหรับงานอีเวนต์ที่สามารถระบุแหล่งที่มาของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างละเอียด ติดตามความคืบหน้าของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างเรียลไทม์ วิเคราะห์แหล่งที่มาของการปล่อยก๊าซเรือนกระจก วางแผนกลยุทธ์การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และรายงานที่สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการขององค์กร ช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • PEA Solar ส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพตามนโยบายภาครัฐ ส่งเสริมการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ โดยให้บริการติดตั้ง บำรุงรักษา บริการจัดการพลังงานในองค์กร ได้แก่ Renewable Energy : RE ในรูปแบบ ESCO Model Guaranteed Rebate และ Energy Efficiency : EE ในรูปแบบ ESCO Model Shared Saving

ยกระดับการบริการ
– ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าของ PEA ประกอบด้วย
PEA VOLTA เป็นสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าของ PEA เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ปัจจุบันให้บริการแล้ว มากกว่า 400 สถานีทั่วประเทศ PEA มีแผนจะลงทุนเพิ่มปีละประมาณ 100 สถานี ในพื้นที่ที่เหมาะสม
VOLTA CONNEXT ให้บริการ Platform ระบบบริหารจัดการสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า แก่ผู้ประกอบการอื่นๆ มาใช้ระบบ PEA Volta โดยผู้ประกอบการไม่ต้องลงทุนพัฒนาแอปพลิเคชันเอง เพื่อช่วยบริหารจัดการสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

VOLTA FLEET บริการระบบชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าของกลุ่มองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนแบบครบวงจร ซึ่งสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายและกระจายวงเงินการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมให้ความสะดวกสบายจากการชาร์จผ่าน Auto Charge หรือใช้บัตร RFID โดยไม่ต้องโหลดแอป และสามารถตรวจสอบการใช้งานของรถอย่างถูกต้องแม่นยำ

  • PEA Smart Plus บริการครบจบใน APP เดียว อาทิ การขอใช้ไฟฟ้า ตรวจสอบประวัติการใช้ไฟฟ้าย้อนหลัง แจ้งไฟฟ้าขัดข้อง คำนวณค่าไฟฟ้า ชำระค่าไฟฟ้าและชำระค่าบริการอื่นๆ ปัจจุบัน PEA พัฒนาเวอร์ชันใหม่ ที่สะดวก รวดเร็วและดูข้อมูลละเอียดมากขึ้น
  • PEA e-Service บริการออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของ PEA (www.pea.co.th) เพื่ออำนวยความสะดวกกับลูกค้า ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปสำนักงาน เช่น ขอใช้ไฟฟ้า สอบถามประวัติการใช้ไฟฟ้า ขอรับใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (PEA e-Bill) ขอรับบริการติดตั้ง PEA Solar และ ติดตามสถานะธุรกิจเกี่ยวเนื่อง
  • PEA LINE Official Account ภายใต้ชื่อ PEA Thailand เป็นช่องทางให้บริการตรวจสอบ แจ้งเตือน และชำระค่าไฟฟ้า แจ้งเตือนกระบวนการและสถานะการงดจ่ายไฟฟ้า มีริช เมนูที่เชื่อมต่อไปยังบริการอื่นๆ เช่น PEA e-Service และ 1129 PEA Contact Center
  • Watt-D Point เป็นการสมัครและสะสมคะแนนผ่านแอปพลิเคชัน PEA Smart Plus เพื่อแลกรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ได้แก่ แลกรับเงินคืนค่าไฟฟ้าหรือแลกรับสิทธิพิเศษจากพาร์ทเนอร์ โดยลูกค้าจะได้รับคะแนนสะสมตั้งแต่เริ่มสมัคร และยังได้รับคะแนนต่อเนื่อง ทั้งจาก “การชำระค่าไฟฟ้าภายในกำหนด” และ “การใช้บริการอื่นๆ ของ PEA” ก้าวต่อไปของ PEA

เป้าหมายแรกสู่การเป็น Digital and Green Grid และเป็นปีที่ PEA จะเร่งเครื่องสู่การเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์อย่างแท้จริง หรือ PEA Move to AI Organization เพื่อยกระดับ ความมั่นคง (Reliability), ประสิทธิภาพ (Efficiency) และ ประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) ให้ดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด ตอบโจทย์ยุคเปลี่ยนผ่านพลังงานได้อย่างสมบูรณ์ โดย PEA มุ่งเน้นประเด็นสำคัญดังนี้

  • AI Organization นำ AI เพิ่มความมั่นคงของระบบไฟฟ้าด้วยการบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์ (Predictive Maintenance) แทนการรอให้เสียแล้วซ่อม และการบริการที่รวดเร็ว ผ่าน PEA Smart Plus และ LINE OA ช่วยให้ PEA บริหารต้นทุนได้มีประสิทธิภาพขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อภาพรวมในระยะยาว และช่วยให้ผู้ใช้ไฟวางแผนการใช้พลังงานเพื่อประหยัดค่าไฟของตนเองได้
  • AI for Operations ใช้โดรนและ AI วิเคราะห์ภาพถ่ายต้นไม้ใกล้แนวสายไฟฟ้า เพื่อหาว่าเส้นทางใดที่ต้องทำการตัดต้นไม้ก่อน ส่วนสายส่งไฟฟ้าแรงสูง จะหาจุดชำรุดหรือจุดเสี่ยงโดยอัตโนมัติ ซึ่งลดทั้งความเสี่ยงของพนักงานและเพิ่มความแม่นยำ
  • AI for Service PEA พัฒนา Chatbot อัจฉริยะรุ่นใหม่ ที่สามารถเข้าใจภาษาไทยที่ซับซ้อนและเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลเพื่อแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้แบบเรียลไทม์
  • AI for Efficiency and New Business ใช้ AI เพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการภายใน ลดต้นทุน ยกระดับความโปร่งใส และต่อยอดสู่โอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ในยุค Electricity 5.0
  • AI for Grid พัฒนา AI พยากรณ์โหลด (Load Forecast) และพยากรณ์ปริมาณการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เพื่อให้บริหารจัดการไฟฟ้าในระบบได้เสถียรยิ่งขึ้น

การเป็น AI Organization จะสำเร็จได้ ต้องมีรากฐานที่มั่นคง คือ บุคลากรของ PEA ต้องมีการ “Upskill และ Reskill” พนักงานให้มีความรู้ความเข้าใจด้านดิจิทัลและ AI เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับเทคโนโลยีใหม่ได้อย่างเต็มศักยภาพ และสร้างวัฒนธรรมที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลที่มหาศาลให้มีคุณภาพ พร้อมใช้งาน และเชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบ โดย PEA กำลังทำแพลตฟอร์มข้อมูลกลาง เพื่อให้ AI สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ PEA จะลงทุนในระบบคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูงให้สามารถประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลและสร้างโมเดล AI ที่ซับซ้อนให้มีความปลอดภัย ทั้งหมดนี้เพื่อสร้างรากฐานทางเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่น รองรับการเติบโตในอนาคต

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon