Source: Bloomberg, TISCO Economic Strategy Unit (TISCO ESU)
-
กลุ่ม OPEC8+ ซึ่งประกอบไปด้วยประเทศสมาชิกที่เข้าร่วมมาตรการลดการผลิตโดยสมัครใจ 8 ประเทศ (ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย รัสเซีย อิรัก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คูเวต คาซัคสถาน แอลจีเรีย และโอมาน) มีมติในการประชุมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (7 ก.ย.) ให้สมาชิกเพิ่มการผลิตรวมกันอีก 137,000 บาร์เรลต่อวันในเดือน ต.ค. 2025 เป็นการเริ่มยกเลิกมาตรการลดการผลิตโดยสมัครใจครั้งที่ 1 (1st Voluntary Cut) ซึ่งมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่เดือน พ.ค. 2023 และมีปริมาณลดการผลิตทั้งหมดราว 1.65 ล้านบาร์เรลต่อวัน
-
เรามองว่าการตัดสินใจดังกล่าวเป็นการส่งสัญญาณที่จะทยอยยกเลิกมาตรการลดการผลิตอีกต่อเนื่องในระยะข้างหน้า โดยอาจถูกแบ่งออกเป็นการปรับขึ้นเดือนละเท่า ๆ กันที่ 137,000 บาร์เรลต่อวัน เป็นเวลา 12 เดือน ไปสิ้นสุดลงในเดือน ก.ย. 2026 ซึ่งจะส่งผลให้กำลังการผลิตส่วนเกิน (Spare Capacity) ของกลุ่ม OPEC8+ ลดลงเหลือเพียงประมาณ 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับระดับสูงสุดเกือบ 6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ณ ช่วงที่ทั้งมาตรการ 1st (1.6 mb/d) และ 2nd (2.2 mb/d) Voluntary Cut มีผลบังคับใช้
-
ในระยะยาวแล้ว Spare Capacity ที่ลดลงอย่างมีนัยของ OPEC จะกลายเป็นปัจจัยบวกต่อราคา เนื่องจาก Spare Capacity มีบทบาทคล้ายเพดานราคา (Price Ceiling) ในช่วงที่ตลาดมีความตึงตัวสูง หรือเกิดเหตุการณ์ Supply shock ดังเช่นในปี 2022 ที่สงครามรัสเซีย-ยูเครนเริ่มต้นในช่วงที่ OPEC เร่งการผลิตขึ้นเต็มกำลังแล้ว จึงแทบไม่มี Spare Capacity เหลืออยู่ ราคาน้ำมันในปีนั้นจึงปรับสูงขึ้นรุนแรง
-
ขณะที่ในระยะสั้น การที่ทางกลุ่มผู้ผลิตเดินหน้าเพิ่มการผลิตขึ้นต่อเนื่องในปริมาณมากก็เป็นการเพิ่มความเสี่ยงด้านต่ำให้กับราคาน้ำมัน เสมือนเป็นการยกเลิก Floor Price เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ดี เราคาดว่าระดับการผลิตที่จะเพิ่มขึ้นจริงจะต่ำกว่าตัวเลขที่ระบุทางการอย่างมีนัย โดยคาดการผลิตจะเพิ่มขึ้นเป็นหลักจากซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
-
นอกจากนี้ เราคาดว่าผลกระทบต่อราคาน้ำมันในระยะสั้นจะค่อนข้างจำกัด เนื่องจากมีข่าวจากแหล่งที่มาค่อนข้างน่าเชื่อถือชี้ถึงความเป็นไปได้ที่ทางกลุ่มจะเร่งการผลิตขึ้นในการประชุมครั้งนี้เป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว ตลาดจึง Priced-in ปัจจัยนี้ไปแล้วพอสมควร
-
โดยสรุป เราจึงมองราคาน้ำมันดิบ WTI ยังเผชิญความเสี่ยงโน้มไปทางด้านต่ำในช่วงท้ายปี และคาดว่าราคาน้ำมันจะปรับลงต่ำสุดที่ราว 55-60 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นจุดซัพพอร์ตสำคัญ ก่อนที่จะทยอยฟื้นตัวขึ้นในช่วงปีหน้า
Today’s Data Releases
-
ญี่ปุ่น: ยอดคำสั่งซื้อเครื่องจักร (Machine Tool Orders) เบื้องต้น เดือน ส.ค.
-
ฝรั่งเศส: ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Production) เดือน ก.ค.
Key economic indicators
Source: Bloomberg, TISCO Economic Strategy Unit (TISCO ESU)
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon