
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังสถานการณ์ในยุโรปตะวันออกและรัสเซียตึงเครียดขึ้น
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา
(+) ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังสถานการณ์ความขัดแย้งในยุโรปตะวันออกมีความตึงเครียดเพิ่มสูงขึ้น หลังวานนี้เกิดการปะทะกันระหว่างโดรนติดอาวุธของรัสเซียและกองทัพอากาศของโปแลนด์ โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นการเผชิญหน้ากันโดยตรงระหว่างชาติในกลุ่มองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต้ (NATO)และรัสเซีย เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความกังวลต่อนานาชาติว่าการปะทะดังกล่าวอาจลุกลามเป็นความขัดแย้งกันโดยตรงระหว่างกลุ่มนาโต้และรัสเซีย
(+) นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ กล่าวว่าสหรัฐฯ พร้อมที่จะปรับขึ้นภาษีครั้งใหม่กับจีนและอินเดีย เพื่อกดดันให้รัสเซียกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจาสันติภาพอีกครั้ง โดยผู้นำสหรัฐฯ ได้กดดันให้ประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปดำเนินนโยบายดังกล่าวด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ตลาดคาดว่ามาตรการที่สหรัฐฯ และยุโรปอาจพิจารณาดำเนินการเพิ่มเติมจะเกี่ยวข้องกับการคว่ำบาตรกับเรือที่ใช้ในการบรรทุกน้ำมันดิบของรัสเซีย รวมถึงการจำกัดการทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ ของรัสเซียเพิ่มเติม
(+) กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI)ของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. 68 อยู่ที่ระดับ -0.1% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ระดับ 0.3% ภายหลังการประกาศตัวเลขดังกล่าว ส่งผลให้ตลาดคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED)เตรียมปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมซึ่งจัดขึ้นในช่วงสัปดาห์หน้า หลังอัตราเงินเฟ้อฝั่งผู้ผลิตอยู่ในกรอบเป้าหมายที่ระดับ 2%
(-) สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของจีนในเดือน ส.ค. 68 อยู่ที่ระดับ -0.4% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน ตัวเลขทางเศรษฐกิจดังกล่าวสะท้อนถึงภาคเศรษฐกิจของจีนที่ยังคงอ่อนแอ

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
































