Pi Daily ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกแต่เป็นเพราะรายตัว (Alphabet Market Cap ทะลุ 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯเป็นครั้งแรก) ในประเทศเริ่มเห็นการเข้ามาดูแลค่าเงินบาทมากขึ้น มองบวกกับส่งออก Top pick ITC และกลุ่มท่องเที่ยว

12
มิติหุ้น – ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 49 จุด (+0.1%) แต่ดัชนี S&P500 ก็ปิดบวกเช่นกันโดยยืนเหนือกว่าระดับ 6600 แรงหนุนมาจากหุ้นกลุ่ม Tech ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 0.67% แรงหนุนยังมาจากความกังวลในตะวันออกกลาง
เมื่อคืนที่ผ่านมาฝั่งสหรัฐฯ มิได้มีการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ค่อนข้างทรงตัว แต่อย่างไรก็ตามกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ เคลื่อนไหวแดนบวกเพราะมีแรงหนุนหุ้นเฉพาะตัวอย่าง TSLA +3.6% Alphabet +4.3% อย่าง TSLA มีข่าวว่า Elon Musk ได้ซื้อหุ้น TSLA มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯและ Alphabet ปรับขึ้นจนมีมูลค่าบริษัทมากกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์) ปัจจัยหนุนมาจากการผ่อนคลายเกี่ยวกับคำตัดสินของศาลในก่อนหน้าประกอบกับนักวิเคราะห์จาก Citigroup ปรับราคาเป้าหมายขึนเป็น 280 จากเดิมที่ 225 เหตุผลหลักจาก Gemini เริ่มเห็นการใช้มากขึ้นในธุรกิจ (ล่าสุดซื้อขายเพียง 23xPE) โดยนักลงทุนยังคงรอดูผลประชุม FED ที่จะกำหนดทิศทางตลาดอีกครั้งในช่วงจากนี้ กว่าจะทราบผลก็อยู่ในช่วงคืนวันพฤหัสบดีตามเวลาไทย ซึ่ง CME FED Watch ประเมินว่าจะลดดอกเบี้ย 0.25%
คืนนี้รอติดตามยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้ที่ 0.2%MoM ด้านปัจจัยในประเทศวานนี้ทางธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารแห่งประเทศไทย เริ่มมีแนวคิดจะเข้ามาดูแลการซื้อขายทองคำผ่านช่องทางออนไลน์ที่ชำระด้วยเงินบาท (อาจคิดภาษีในธุรกรรมข้างต้น) เพื่อช่วยชะลอการแข็งค่าของเงินบาท กดดันให้เงินบาทเริ่มอ่อนค่าทดสอบ 31.8 บาท / ดอลลาร์สหรัฐฯ จากก่อนหน้าที่ 31.4 บาท / ดอลลาร์สหรัฐฯ ระยะสั้นมองบวกกับหุ้นในกลุ่มส่งออก (ITC, TU) ท่องเที่ยว (AOT, CENTEL, MINT) และเศรษฐกิจไทย ทั้งนี้เชื่อว่าประเทศไทยชอบเงินบาทที่อ่อนค่ามากกว่าแข็งค่าด้วยการพึ่งพิงส่งออกและท่องเที่ยว
วันนี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1295 – 1315 สภาพแวดล้อมยังดูเป็นบวกจากการปรับขึ้นของหุ้นสหรัฐฯผสานกับความคาดหวังการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐฯ  วานนี้เห็นการประชุมกันระหว่างสภาอุตสาหกรรมและทีมกระตุ้นเศรษฐกิจ ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนยังอาจเลือก Trading ในหุ้นกลุ่มได้ประโยชน์จากรัฐบาล อาทิ ค้าปลีก (BJC, CRC, CPALL, CPAXT) ศูนย์การค้า (CPN) การเงิน (MTC) ธนาคารพาณิชย์ (BBL, KBANK, KTB, SCB) ส่งออก (ITC)
ITC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 16.00 บาท)
ผลประกอบการงวด 2Q25 เริ่มเห็นการฟื้นตัวจาก 1Q25 มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 2%QoQ ขณะที่ปัจจัยบวกที่เห็นได้มีคือการรักษาระดับกำไรขั้นต้นให้ยังอยู่ในระดับ 25% ได้ ขณะที่แนวโน้มในช่วง 2H25 คาดรายได้ยังเติบโตได้ดีอยู่ทั้งจากคำสั่งซื้อใหม่ที่รอส่งมอบอีกมากกว่า 1,600 ล้านบาท
MINT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 36.00 บาท)
คาดผลประกอบการใน 2H25 เติบโตสูงกว่าใน 1H25 เนื่องจากมีแนวโน้มได้รับผลบวกจากภาระดอกเบี้ยลดลงต่อเนื่อง ขณะที่ใน 4Q25 โรงแรมหลักในไทยที่ปิดปรับปรุงจะกลับมาเริ่มเปิดให้บริการช่วงเดือนพฤศจิกายน ประกอบกับอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศมัลดีฟส์ใหม่ทะยอยหนุน Occupancy เติบโตแข็งแกร่ง

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon