มิติหุ้น – Investment Strategy
• สรุปภาพรวมตลาด ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (18 ก.ย.) โดยตลาดยังคงได้ปัจจัยบวกจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา พร้อมกับส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในปีนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากความแข็งแกร่งของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นอินเทล (Intel) ที่พุ่งขึ้นกว่า 20%
หุ้นอินเทลปิดตลาดทะยานขึ้น 22.77% ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นในวันเดียวที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2530 หลังจากอินวิเดีย (Nvidia) ประกาศว่าจะลงทุนมูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์ในบริษัทอินเทล ภายใต้ข้อตกลงในการร่วมพัฒนาชิปสำหรับศูนย์ข้อมูลและคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล โดยอินวิเดียจะเข้าซื้อหุ้นอินเทลในราคา 23.28 ดอลลาร์/หุ้น
เจนเซน หวง ซีอีโอของอินวิเดียกล่าวว่า ความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์นี้จะเชื่อมโยงเทคโนโลยีด้าน AI และประสิทธิภาพในการประมวลผลของอินวิเดียเข้ากับซีพียูและระบบ x86 ของอินเทล ซึ่งการผสมผสานกันของสองแพลตฟอร์มนี้จะช่วยขยายระบบนิเวศทางเทคโนโลยีและปูทางไปสู่ยุคใหม่ของการประมวลผล หุ้นอินวิเดียพุ่งขึ้น 3.5% เช่นกัน จากข่าวที่ว่าหน่วยงานกำกับดูแลอินเทอร์เน็ตของจีนได้สั่งให้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของจีนระงับการซื้อชิป AI ของอินวิเดีย
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 46,142.42 จุด เพิ่มขึ้น 124.10 จุด หรือ +0.27%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,631.96 จุด เพิ่มขึ้น 31.61 จุด หรือ +0.48% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 22,470.73 จุด เพิ่มขึ้น 209.40 จุด หรือ +0.94%
• สรุปภาพรวมสินทรัพย์อื่นๆ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 39.5 ดอลลาร์ หรือ 1.06% ปิดที่ 3,678.3 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาทองคำทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงก่อนหน้านี้ ขณะที่นักลงทุนประเมินท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต สอดคล้องกับ สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ที่ปรับตัวลดลง 51 เซนต์ หรือ 0.75% ปิดที่ 67.44 ดอลลาร์/บาร์เรล
• SET Index : เราคาดการณ์กรอบ SET Index ในวันนี้ 1,290-1,320 จุด โดย เรามองว่าในวันนี้ SET Index มีโอกาส technical rebound ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯจากประเด็นการลงทุนของอินวีเดีย
จับตาประเด็น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวในวันนี้ว่า เขาจะสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ในวันพรุ่งนี้ (19 ก.ย.) โดยจะมีการหารือในหลากหลายประเด็น รวมทั้งประเด็นติ๊กต๊อก (TikTok) และการขยายเส้นตายพักรบทางการค้าระหว่างทั้งสองประเทศ
หุ้นแนะนำ
STECON:
เราเชื่อว่า STECON จะทำรายได้ 3.2 หมื่นล้านบาทและมี GPM อยู่ที่ 7% ในปี FY25 ตามเป้าหมาย และ เราคาดว่าบริษัทจะมีกำไรจากการดำเนินงานปกติ 214 ล้านบาท (+245% yoy, +36% qoq) ใน 3Q25 และปรับประมาณการกำไรในปี FY25-27 ตั้งแต่ -20% ถึง +5%
(Take profit : 9.50 / Stop loss : 9.15)
EGCO:
เราปรับเพิ่มกำไรสุทธิหลักสำหรับปี 2569 และ 2560 ขึ้น 57% และ 37% ตามลำดับ ซึ่งสะท้อนถึงสมมติฐานของเราเกี่ยวกับส่วนแบ่งกำไรของ CDIA
เรามองว่าปัจจัยลบระยะสั้นได้สะท้อนออกมาแล้ว โดย QPL กลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้งและกำไรที่เพิ่มขึ้นของ CDIA น่าจะผลักดันให้กำไรฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2568 เป็นต้นไป
(Take profit : 117.50 / Stop loss : 114.00)
#CGSInternational
#CGSI
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon