ศึกชิงอาณาจักรหมื่นล้านบาท ของ DUSIT หรือ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ดูเหมือนเกมยังพลิกผันได้ตลอดแล้วแต่ช่วงเวลา…ถึงตอนนี้ ก็ยังไม่น่าไว้วางใจใครได้เลย “ใครจะเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ…หรือใครจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ” ที่ล่าสุด!!! น่าจับตาอย่างยิ่งยวด คือการประชุมวิสามัญ ผู้ถือหุ้น คร้ังที่1/2568 ในวันที่ 26 กันยายน 2568 นี้ ก็ยังมีหลายจุดน่าสังเกตเริ่มจาก
เรื่องแรก อยู่ๆ “ดร. ปานปรีย์ พหิทธานุกร” กรรมการที่ครบวาระ กลับมีหนังสือมายังบริษัทเมื่อวันที่ 3ก.ย. 68 ว่าไม่ประสงค์จะเข้ารับการเลือกตั้งเป็นกรรมการอีกต่อไป แม้จะมีเหตุผลอ้างว่า มีภารกิจอื่นที่ต้องรับผิดชอบ แต่ก็อดใจคิดไม่ได้ว่าแท้จริงแล้วมันมีเหตุผลลึกๆอะไร?!?!
เรื่องถัดมา คณะกรรมการอีก 6 คนที่เหลือ พบว่า 2 ใน 6 คนนี้ มาจากตัวแทนของ ผู้ถือหุ้นอันดับ2 (ถือสัดส่วน 17%) คือ “ปัณฑิต มงคลกุล” ปัจจุบันเป็น ซีเอฟโอ ของบริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด คงไม่ต้องบอกว่ากลุ่มนี้ดำเนินธุรกิจที่มีส่วน Conflict of Interest เนื่องจากเป็นธุรกิจโรงแรม อสังหาริมทรัพย์และห้างสรรพสินค้า ที่ทุกคนก็รู้กันทั่ว และอีกคนคือคุณ “ภูม โอสถานนท์” นั่งซีอีโอร่วมของ บริษัท ซีพีเอ็น รีท แมเนจ เมนท์ จำกัด ซึ่งเป็น ธุรกิจพัฒนาและให้เช่าพื้นที่ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ซึ่งสมควรหรือไม่ก็ไม่ทราบหากยังยืนยันจะส่งตัวแทนมานั่งในบอร์ดของ DUSIT มันจะดูกระไรไปมั้ย…และส่วนตัวเชื่อมั่นว่าควร..คิดให้ดีกว่านี้เรื่องการส่งคนของตัวเองมานั่งซึ่งไม่น่าจะต้องมานั่งอธิบายกันให้มากความ
แต่ตามความเป็นจริงแล้ว…หากผู้ถือหุ้นอันดับ 2 จะส่งบอร์ด 2 คนเข้ามาก็ควรต้องผ่านมติบอร์ดก่อนหรือไม่… แต่กลับใช้เวทีประชุมผู้ถือหุ้นมันดูจะขัดๆไปหรือไม่?!?!…ใครรู้ช่วยอธิบายที
จึงทำให้อดคิดไม่ได้ว่าแล้วบอร์ดที่ส่งมาในนาม “บริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด” มาจากโควต้าใครกันแน่หนอ?!?! หรือแม้กระทั่งรายชื่อบอร์ดทั้ง 10 คนด้วยหรือเปล่า ใครคือคนที่ส่งมากันแน่เช่นกัน?1?1
เรื่องถัดมา…ฉะนั้นแล้วถ้าจะมาดูกันจริงๆ วันที่ 26 ก.ย.68 วาระถอดถอน “ชนินทธ์ โทณวณิก” ออกจากบอร์ดบริษัท ยังจะออกมาในรูปแบบไหนเกมนี้ก็ยังน่าจะไม่เคลียร์เสียซะทีเดียว รวมถึงวาระการพิจารณาอนุมัติงบ การเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 67 ซึ่งน่ากลัวจริงๆว่าจะออกมาไม่โดนใจใครหลายๆคน
เรื่องสุดท้าย!!! ว่ากันว่าที่ผ่านมา… ก่อนหน้านี้ผู้ถือหุ้นอันดับ 2 กำลังเจรจาคนสนใจเพื่อต้องการลดสัดส่วนให้เหลือที่ระดับ 10% ตามที่เคยเจรจากันไว้ แต่ยังพบว่าปัจจุบันลดสัดส่วนจากราว 22% ลดลงไป 5% เหลือราว 17% โดยตัดขายให้ ANAN เมื่อปี 62….แต่ทำไมยังยื้อถืออยู่กว่า 7 ปี ยังไม่ลดสัดส่วนไปตามที่ตกลงเสียที…หรือเพราะสถานการณ์ยังไม่เอื้อ หรืออะไรกันแน่?!?! ฉะนั้นเกมนี้ยังไม่จบ 26 ก.ย.68 นี้ร้อนฉ่าแน่นวล++
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
