มิติหุ้น-BCH โดยบล.ลิเบอเรเตอร์ ระบุว่า คูเวตคาดจะกลับเข้ามาสร้างรายได้ต้นปีหน้า : ผบห.เผยในรายการ LIB insight วานนี้ว่า หลังการประชุมร่วมกันระหว่างคณะทำงานคูเวตผ่านไปด้วยดีในสัปดาห์ก่อน คณะทำงานคูเวตจะเข้าเยี่ยมชม รพ. ทั้ง 8 แห่งในเดือน ต.ค. (รวมถึง BCH – World Medical Center) จากนั้นจะดำเนินการด้านเอกสารต่างๆให้เสร็จภายใน 4Q25 และเริ่มโครงการอีกครั้งในเดือน ม.ค. 2026 โดยเงื่อนไขสำคัญใหม่ในรอบนี้คือ
- คูเวตจะส่งผู้ป่วยมารักษาเพียงโรคเฉพาะทางบางโรคเท่านั้น ขณะที่โรคที่ รพ.คูเวตรักษาเองได้แล้ว เช่น โรคหัวใจ และโรคทั่วไป จะไม่ได้สิทธิในครั้งนี้ ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ BCH ซึ่งเชี่ยวชาญในโรคเบาหวาน และโรคแทรกซ้อนของเบาหวาน อีกทั้งยังมีโอกาสใน ศูนย์มะเร็งทางเลือก การผ่าตัดข้อกระดูก เป็นต้น
- จะมีการตั้งหน่วยงาน Medical Officer Office โดย ก.สาธารณสุขคูเวต เพื่อคัดกรองการจัดส่งผู้ป่วย รวมถึงจะเป็นช่องทางในการเบิกจ่ายกับ รพ.ไทย ผบห.เชื่อระบบซึ่งจะมีการออกหนังสือค้ำประกันการจ่ายเงินนี้จะมีประสิทธิภาพดีกว่า และไม่ล่าช้าจ่ายเงินกว่าระบบก่อนหน้าที่ทำผ่านสถานฑูตฯ
โอกาสของ BCH กลายเป็นจะมากกว่าเดิม : ผบห. เผยที่ผ่านมา BCH รับผู้ป่วย GOP คูเวตเป็นเคสเฉพาะทางทั้งสิ้น ดังนั้นการคัดกรองโรคนี้เชื่อจะไม่ทำให้รายได้ลดลง แต่ ผบห.มองรายได้ส่วนนี้จะไม่ต่ำกว่าเดิมที่ 720 ลบ. ต่อปี (ราว 6% ของรายได้รวม) เนื่องจากจำนวนโรงพยาบาลตัวหารก็จะลดลงจากเดิมหลังการคัดเลือกของคูเวต ขณะที่โมเมนตัมผู้ป่วยคูเวตใน 1H25 ก็ขยายตัวต่อเนื่อง 32.6% H-H จากผู้ป่วยกลุ่ม Self-pay แม้โครงการจะชะงักก็ตาม
3 รพ. ใหม่แนวโน้มดี : ผบห. มอง สาขาเวียงจันทน์มาแรงที่สุด ใน 3 แห่ง โดยเป็นโรงพยาบาลแรกในสปป. ลาว ที่ได้มาตรฐาน JCI รวมถึงรักษาโรคหลอดเลือดสมองอุดตัน ซึ่งเป็นโรคซับซ้อนได้ ส่วนสาขาอรัญประเทศกระทบจากผู้ป่วยกัมพูชาเฉพาะต้นเดือน ส.ค. และสาขาปราจีนบุรีปรับการบริหารใหม่ คาดรายได้จะดีขึ้นตามลำดับ
ขยายโรงพยาบาลต่อเนื่อง และกำลังพิจารณาปันผลเพิ่ม : นอกจากการสร้างโรงพยาบาลใหม่ อาทิ สาขาสุวรรณภูมิ และระยองที่จะเปิดในปี 2027 BCH ยังปรับปรุงโรงพยาบาลเดิมต่อเนื่องเพื่อรักษาฐานผู้ป่วยเดิมและดึงดูดผู้ป่วยใหม่ โดย ผบห. เผยรายได้ทุกโรงพยาบาลขยายตัวกว่า +10% หลังปรับปรุง ขณะที่แม้เศรษฐกิจจะอ่อนแอมีโรงงานปิดหลายแห่ง แต่จำนวนผู้ประกันตนรวมภายใต้การดูแลของกลุ่ม BCH ยังรักษาฐานได้ดีที่ 1.026 ล้านคน +0.8% y-y นอกจากนี้ BCH กำลังศึกษาการขยายโรงพยาบาลใน อ.เชียงแสน และพัทยาอีกด้วย
ซึ่งแม้ BCH จะลงทุนใหม่ต่อเนื่อง แต่ด้วย EBITDA ระดับ 1,000 ลบ. ต่อปี และโรงพยาบาลใหม่จะใช้เงินทุนก่อสร้าง 3,130 ลบ. ทยอยสร้าง 2-3 ปี ขณะที่ BCH ไม่มีภาระหนี้ จึงมีเงินเพียงพอทั้งการก่อสร้าง และเหลือพอที่จะพิจารณาการจ่ายปันผลที่สูงขึ้น
แนวโน้ม 2H25 จะแรงกว่าปกติ : เรามองแนวโน้มกำไร 3Q25 จะขยายตัว q-q จากผลฤดูกาล และอาจขยายตัว q-q ต่อใน 4Q25 จากฤดูฝนที่ลากยาวในช่วงปลายเดือน ก.ย. ส่งผลให้กำไร 2H25 จะขยายตัว H-H อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งสอดคล้องกับ ผบห. ที่ยืนยันเช่นกันว่า จังหวะของการแพร่ระบาดปีนี้เปลี่ยนไปมีโอกาสข้ามไปในไตรมาส 4
ส่วนปี 2026 คาดรายได้ผู้ป่วย GOP คูเวตจะเข้ามาตั้งแต่ 1Q25 ซึ่งเรายังไม่รวมในประมาณการจนกว่า BCH จะได้ผู้ป่วยมารักษาอย่างเป็นทางการ
คงคำแนะนำ “ซื้อ” : กำไร 1H25 คิดเป็น 42.3% ของประมาณการปีนี้ สอดคล้องกับแนวโน้ม 2H25 ที่คาดจะขยายตัว H-H และคาดรายได้ปี 2025 จะขยายตัว +8.3% y-y สอดคล้องเป้าผบห. ที่ 5-10% เราคงประมาณการไว้ตามเดิม
ขณะที่การจะกลับมาให้บริการผู้ป่วยคูเวต ที่มองว่าอาจจะเท่าเดิม หรือมากกว่าเดิม ตรงนี้เป็น upside ของประมาณการปีหน้า ซึ่งเราจะกลับมาทบทวนอีกครั้งในปลายปีนี้
“ ปัจจุบัน BCH ซื้อขายที่ P/E 25E 19.6x ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยกลุ่ม อย่างไรก็ดีเมื่อเทียบกับ Forward P/E ในปี 2024 ซึ่งเป็นช่วงหลังการระบาดของ COVID-19 อยู่ในช่วง 19.0x-31.2x ยังอยู่ในโซนล่าง จึงมองว่าราคาหุ้นยังไม่แพง และมีแนวโน้มการขยายธุรกิจต่อเนื่องในระยะยาว แนะนำสะสมเพื่อรับผลบวกจากประเด็นผู้ป่วย GOP คูเวต และการขยายสาขาใหม่ๆในอนาคต ”
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon