“ครม.หนูหนึ่ง” เขย่าตลาดหุ้น                 

            แทบไม่เชื่อสายตา…ว่านับตั้งแต่ประเทศไทย มีนายกรัฐมนตรีชื่อ “อนุทิน ชาญวีรกูล”  พบว่า SET Index ใส่เกียร์เดินหน้า ไปสัมผัส 1300 จุดได้  เพราะอะไรกัน…พี่น้อง

ถ้าวิเคราะห์กันตามจริง ต้องยกเครดิตให้ “นายกฯหนู” ที่ฟอร์มทีม “ครม.หนู 1”  อ่านว่า “ครม.หนูหนึ่ง” ได้เจ๋ง ในสายตานักลงทุน อาจเป็นเพราะไม่มีข้อจำกัดโควต้ารมต. ไม่ต้องแบ่งสรรปันส่วนเก้าอี้ให้พรรคเล็กพรรคน้อย ทำให้สามารถเหลือเก้าอี้ว่าง ไปอัญเชิญผู้มากความสามารถ ตรงสายกับตำแหน่ง

เพราะก่อนหน้านี้ ทุกครั้งที่โผครม.ออกมา ประชาชนแทบแซ่ซ้องเป็นเสียงเดียวกันว่า “ยี้”

แต่รอบนี้ ครม. ฟากทีมเศรษฐกิจ ขอซูฮก ร้องดังๆ ว่า “เฮ้ยยย..มาได้ไง” ไม่ว่าจะเป็น “ศุภจี”  “อรรถพล” หรือแม้แต่ “เอกนิติ” พ่วงด้วย “วรภัค” อดีตไอบีมือฉมังจากโบรกเกอร์ต่างประเทศ… แต่ผลงานจะทำได้ไม่ได้ต้องรอดู เพราะเวลามีจำกัด… จะสามารถสร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ ค่อยว่ากัน

แต่ในแง่ของตลาดหุ้น…ไม่มีเวลามารอแล้ว… นักลงทุนเข้ามาตะลุมบอน..เชิงจิตวิทยาเรียบร้อย นอกจากโผครม. ไม่ค้านสายตาเกินไป …นายกฯ หนู งัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมาเป็นแพ็ค หมัดเด็ดคงเป็น “คนละครึ่ง”  ที่พร้อมอาลาวาดให้ประชาชนได้กิน ช้อป ใช้กันไม่เกินปลายปีนี้

 บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในอนาคต หลัง ครม.อนุทิน 1 เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน และแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว หนึ่งในโครงการที่คนให้ความ สนใจ คือ โครงการคนละครึ่ง พลัส(งบโครงการ 25,000 ล้านบาท (คิดเป็น 0.13%ต่อ GDP) โดยปรับสัดส่วน การช่วยเหลือให้เหมาะสมกับสิทธิที่ควรได้รับมากกว่าเดิม คาดเสนอ ครม. ช่วงกลาง ต.ค.68 และเริ่มใช้จ่ายได้เร็ว สุด ปลายต.ค.68-ต้น พ.ย.68 ประเมินความชัดเจนดังกล่าว เป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีกชอบ CPAXT, CPALL, BJC กลุ่มเครื่องดื่ม OSP ICHI CBG เป็นต้น

ส่วนอีก 1 ประเด็นที่พยุงด้านตลาดทุน รัฐบาลหารือร่วมกับ FETCO ได้ข้อสรุป 4 ข้อหลักๆ ดังนี้

• เสริมสร้างความเชื่อมั่นในนโยบายภาครัฐ โดยจัดตั้งทีมงานร่วมระหว่างภาครัฐและภาคตลาดทุนเพื่อ สื่อสาร THAILAND STORY แก่นักลงทุนในประเทศและนักลงทุนต่างซาดิ และเตรียมความพร้อม สำหรับการจัด COUNTRY ROADSHOW
• พัฒนาเครื่องยนต์เศรษฐกิจยุคใหม่ (NEW ECONOMIC DRIVER) ด้วยกลไกตลาดทุน ผ่านการจูงใจ บริษัทที่ได้รับสิทธิประโยชน์จากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และโครงการเขตพัฒนาพิเศษ ภาคตะวันออก (EASTERN ECONOMIC CORRIDOR : EEC) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
• เพิ่มสภาพคล่องระยะยาวในตลาดทุนไทย ยกเว้นภาษีเงินปันผลสำหรับการลงทุนระยะยาว สนับสนุน การลงทุนใน THEME THAI ESG แบบถาวร และเพิ่มแรงจงใจในการดึงดดเม็ดเงินจากนักลงทุนสถาบัน ในประเทศ
• สู่อนาคตไทยที่ยั่งยืน UPSKIL-RESKILL แรงงานไทย ผ่าน E-LEARNING ขับเคลื่อนโดยตลาด หลักทรัพย์ฯและบริษัทจดทะเบียน ปราบปรามการหลอกลวงการลงทุน เพื่อสภาพแวดล้อมทาง การเงินที่ปลอดภัยสำหรับประชาชน และแก้ไขกฎระเบียบที่เป็นภาระอุปสรรค (REGULATORY GUILLOTINE)

บล.กรุงศรี การเมืองไทยผ่านช่วงรอยต่อราบรื่น และน่าจะเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง

ประเมินภาพบวกข้อสรุปการเมืองที่เกิดขึ้นเร็ว และ ครม. ใหม่น่าจะรับตำแหน่งทันก่อนปีงบประมาณ 2569 ทำให้รอยต่อการเมืองไม่กระทบเศรษฐกิจ นอกจากนี้รัฐบาลที่มีเสียงส่วนน้อยประกอบกับ ข้อตกลงยุบสภาภายใน 4 เดือนที่มีกับพรรคประชาชน ทำให้ระยะกลางตลาดยังมีความหวังเชิงบวกต่อภาพการเข้าสู่จุด Refresh ใหม่ = รัฐบาลใหม่ เดินหน้าสู่การเลือกตั้ง

กลยุทธ์ : แม้จะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย แต่คาดนโยบายพรรคภูมิใจไทยยังน่าจะขับเคลื่อนระดับหนึ่ง ทำให้ชุดหุ้นที่ตลาดมีโอกาสเห็นแรงเก็งกำไร คือกลุ่มที่มีโอกาสได้ประโยชน์จากนโยบายหลักของพรรค

1.) วงเงินกู้ฉุกเฉิน 50,000 บาท ไม่ต้องมีหลักประกัน + พักหนี้ 3ปี + Contract Farming +เพิ่มค่าตอบแทน อสม. เดือนละ 2,000 บาท บวกต่อหุ้น Domestic ธนาคาร SCB, KTB, KBANK เช่าซื้อ MTC, SAWAD ค้าปลีก CPALL, GLOBAL

2.) ฟรีหลังคา Solar Cell บวกต่อ GULF, GUNKUL

3.) Landbridge รับเหมา STECON, CK นิคม WHA, AMATA โลจิสติกส์ SJWD

4.) รายได้ท่องเที่ยว 4 ปี 6 ล้านล้านบาท เพิ่มนักท่องเที่ยว 80 ล้านคน เน้นพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว+จัดเทศกาลระดับโลก+Wellness Resort of the World ท่องเที่ยว ERW,CENTEL ร.พ. BDMS, BH

5.) รถเมล์ไฟฟ้า EA BYD NEX (กลยุทธ์เก็งกำไรสั้นๆ วางจุด Stop Loss ระมัดระวัง)

6.) กองทุนประกันชีวิต 60 ปี เสียชีวิตได้เงิน 1.0 แสนบาท บวกกลุ่มประกัน TLI BLA

7.) เครื่องฉายรังสีรักษามะเร็ง ทุกจังหวัด + ศูนย์ฟอกไตฟรีทุกอำภอ คาดมีโอกาสเปิด Upside ร.พ. เชื่อมโยงภาครัฐฯ กลุ่มประกันสังคม BCH

8.) หุ้นได้อานิสงส์จัดตั้งรัฐบาลใหม่ อาทิ STECON, STPI, PTG, PRM, AMA

นอกจากนี้ ความคาดหวังเชิงบวกตลาดต่อภาพเดินหน้าสู่การเลือกตั้งในอีกไม่นาน ประเมิน SET มีโอกาสตอบรับทางบวก อิงสถิติก่อนการเลือกตั้ง 5 ครั้งหลังสุด  ในช่วง 6 เดือนก่อนการเลือกตั้ง SET มักให้ผลตอบแทนเฉลี่ย +5.3%

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon