มิติหุ้น – เมื่อโลกกำลังเผชิญพายุครั้งใหญ่ ทั้งวิกฤตสภาพภูมิอากาศ มาตรการสิ่งแวดล้อมจากคู่ค้า และโจทย์พลังงานสะอาด ประเทศไทยจำเป็นต้องหาทางรอดที่มั่นคงและยั่งยืน
งาน ESG Symposium 2025 จึงเกิดขึ้นภายใต้แนวคิด “Green Breakthrough amid the Perfect Storm – เร่งด้วยกรีน รอดด้วยกัน” โดยแบ่งเป็น 3 วาระหลักที่ชี้อนาคตประเทศ ได้แก่ 1. เร่งเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด 2. ยกระดับ SMEs เข้าสู่ธุรกิจสีเขียว 3. เตรียมพร้อมรับมือโลกรวน
พลังงานไทย ความท้าทายเร่งด่วน
ดร.อารีพร อัศวินพงศ์พันธ์ จาก TDRI เปิดเผยว่า ดัชนีการเปลี่ยนผ่านพลังงานของไทยยังตามหลังเพื่อนบ้าน ทั้งเวียดนาม มาเลเซีย และอินโดนีเซีย เพราะพลังงานสะอาดมีสัดส่วนน้อย และเรายังพึ่งพา LNG ที่ทำให้ค่าไฟสูงกว่าคู่แข่ง นี่คือความท้าทายสำคัญที่ต้องเผชิญ 1.ภาคส่งออกเสี่ยงเจอภาษีคาร์บอน (CBAM) จากสหภาพยุโรป 2.การลงทุนกว่า 1.1 ล้านล้านบาทจากกลุ่มบริษัท RE100 อาจไหลออก หากไทยไม่สามารถจัดหาพลังงานสะอาด 100% ภายในปี 2030
ดังนั้นไทยต้องเร่งยกระดับดัชนี Energy Transition Index และรับมือมาตรการ CBAM ของ EU โดยเสนอแนวทาง “ชัด คล่อง เป็นจริง” พร้อมดึงดูดการลงทุนพลังงานหมุนเวียน และสร้าง Green Infrastructure อย่างมั่นคง และต้องมีไฟฟ้าสะอาด ไม่น้อยกว่า 40% ของระบบภายในปี 2030 และต้อง “ปลดล็อกตลาดพลังงานเสรี” เปิดทางให้เอกชนรายใหม่เข้ามามีบทบาทจริง
SMEs กระดูกสันหลังที่เปราะบาง
SMEs และ MSMEs มีการจ้างงาน 13 ล้านคน คือหัวใจเศรษฐกิจ แต่กลับเปราะบางที่สุดในการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียว ดร.ณพพงศ์ ธีระวร จากสมาพันธ์ SME ไทย ระบุว่า ผู้ประกอบการรายเล็ก โดยเฉพาะ Micro มักเข้าไม่ถึงสินเชื่อ เพราะขาดเอกสารการเงินที่ธนาคารต้องการ
ข้อเสนอเพื่อการเปลี่ยนผ่านที่เป็นธรรม ได้แก่
1. ตั้งกองทุนเฉพาะกิจปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ 3–4%
2. สร้าง One Stop Service ให้เข้าถึงทุน เทคโนโลยี และความรู้ในที่เดียว
3. ปรับกฎระเบียบ ลดความซับซ้อน เพื่อให้ SMEs โตและแข่งขันได้
โลกรวน ภัยใกล้ตัวกว่าที่คิด
นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม CEO เอสซีจี เผยแบบจำลองว่า ภายใน 25 ปี กรุงเทพฯ อาจจมน้ำจากวิกฤตโลกรวน สะท้อนว่าภัยนี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป
เอสซีจีประกาศพร้อมร่วมมือทุกภาคส่วน เดินหน้าโครงการต้นแบบ เช่น สระบุรีแซนด์บ็อกซ์ เมืองคาร์บอนต่ำที่ออกแบบมาเพื่อรองรับทุกการเปลี่ยนแปลง
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
