มิติหุ้น – Investment Strategy
• สรุปภาพรวมตลาด ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (7 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขานิวยอร์กเปิดเผยผลสำรวจซึ่งบ่งชี้ว่า ผู้บริโภคชาวอเมริกันมีความกังวลเกี่ยวกับทิศทางตลาดแรงงานและเงินเฟ้อ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 46,602.98 จุด ลดลง 91.99 จุด หรือ -0.20%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,714.59 จุด ลดลง 25.69 จุด หรือ -0.38% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 22,788.36 จุด ลดลง 153.30 จุด หรือ -0.67%
ในขณะที่ ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันอังคาร (7 ต.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์และกลุ่มธนาคาร ขณะที่การดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราในฝรั่งเศสช่วยจำกัดการปรับตัวลงของดัชนีหุ้นยุโรปหลังเกิดความปั่นป่วนทางการเมืองเมื่อวันจันทร์
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 569.27 จุด ลดลง 0.97 จุด หรือ -0.17%
• สรุปภาพรวมสินทรัพย์อื่นๆ สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทะลุระดับ 4,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในวันอังคาร (7 ต.ค.) โดยราคาทองคำยังคงได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ รวมทั้งความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจสหรัฐฯ อันเนื่องมาจากการที่หน่วยงานของรัฐบาลถูกปิดดำเนินการเนื่องจากขาดงบประมาณ หรือชัตดาวน์
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 28.1 ดอลลาร์ หรือ 0.71% ปิดที่ 4,004.4 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 65.45 ดอลลาร์/บาร์เรล นักลงทุนประเมินแนวโน้มอุปทานน้ำมันในตลาดโลก หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันน้อยกว่าคาดในเดือนพ.ย.
• SET Index: เราคาดการณ์กรอบ SET Index 1,290-1,325 จุด แม้ดัชนีสามารถยืน 1,300 จุด ได้ แต่ระมัดระวัง “Sell-on-fact” จับตาประชุม กนง. โดย เราคาดว่ากนง.จะ “ลด” ดอกเบี้ย 25bp มาสู่ระดับ 1.25%
หุ้นแนะนำ
HANA:
เราคาดการณ์ว่าผลขาดทุนสุทธิของ PMS ครึ่งหลังปี 2025 จะลดลง 21% hoh เหลือ 305 ล้านบาท และ ลดลงต่อเนื่องในปี 2026 แม้ว่าค่าเงินบาทที่แข็งค่าและความต้องการใช้เดิมที่อ่อนตัวจะจำกัดการฟื้นตัว แต่การประเมินมูลค่าที่ไม่แพงทำให้ความเสี่ยงต่อผลตอบแทนเพิ่มขึ้น
(Take profit : 25.25 / Stop loss : 24.60)
CKP:
เราคาดการณ์กำไรสุทธิหลักในไตรมาส 3 ปี 2568 จะเพิ่มขึ้น 56% เมื่อเทียบกับปีก่อน และ 159% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำที่แข็งแกร่ง อัตรากำไรขั้นต้นที่ขยายตัว และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่ลดลง
กำไรของ CKP ยังคงมีภาพที่ชัดเจน จาก ปรากฏการณ์ลานีญาที่ยืดเยื้อและอัตราแลกเปลี่ยนที่มีเสถียรภาพ ซึ่งช่วยสนับสนุนกำไรในไตรมาส 1 ปี 2569 ต่อเนื่อง ทำลายสถิติการขาดทุนตามฤดูกาลของ CKP ในไตรมาส 1
(Take profit : 2.82 / Stop loss : 2.70)
#CGSInternational
#CGSI
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon