ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังความต้องการใช้น้ำมันสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง
ท่ามกลางการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา
(+) ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) เผยความต้องการใช้น้ำมันของสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 3 ต.ค.68 อยู่ที่ระดับ 21.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งถือเป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 65
(+) ตลาดคาดธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) มีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในการประชุมครั้งถัดไป ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 28-29 ต.ค. 68 โดยคาด FED จะปรับลดที่ระดับ 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 3.75-4.00% ภายหลังตัวเลขเศรษฐกิจส่งสัญญาณถึงความอ่อนแอในภาคแรงงานของสหรัฐฯ
(-) สถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางมีแนวโน้มผ่อนคลายลง ภายหลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เผยว่าอิสราเอลและกลุ่มฮามาสสามารถที่จะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในเฟสแรกแล้ว โดยกลุ่มฮามาสจะปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลทั้งหมด และอิสราเอลจะปล่อยตัวนักโทษการเมืองชาวปาเลสไตน์ 2,000 ราย ข้อตกลงดังกล่าวคาดจะเป็นการปูทางไปสู่การยุติความขัดแย้งที่ดำเนินมากว่า 2 ปี
(+/-) ตลาดจับตาการเจรจาระหว่างพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน เพื่อหาทางออกให้กับเหตุการณ์การปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ หรือชัตดาวน์ (Shutdown)ซึ่งเริ่มต้นมาตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. โดยนักวิเคราะห์คาดว่าทั้งสองพรรคจะสามารถหาทางออกได้ในช่วงสัปดาห์หน้า เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เจ้าหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม อันได้แก่ ทหารประจำการ กองกำลังพิทักษ์ชาติและเจ้าหน้าที่พลเรือนของกระทรวง ไม่ได้รับเงินเดือนในวันที่ 15 ต.ค. หากการชัตดาวน์ยังคงดำเนินต่อไป
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon