มิติหุ้น – “Next-Gen EV Ambulance: Powering the Future of Advanced Life Support”
๑. ยุคใหม่ของยานยนต์ช่วยชีวิต
บริษัท เอสเอ็มดี ไรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SMD100 ประกาศก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมแพทย์ฉุกเฉินไทย ด้วยการเปิดตัว รถพยาบาลพลังงานไฟฟ้าคันแรกของประเทศไทย ภายใต้ชื่อ
“Next-Gen EV Ambulance: Powering the Future of Advanced Life Support”
โครงการนี้สะท้อนวิสัยทัศน์ของ SMD100 ในการผสานเทคโนโลยียานยนต์พลังงานสะอาด (EV) เข้ากับระบบการแพทย์ฉุกเฉินขั้นสูง (Advanced Life Support – ALS) เพื่อยกระดับคุณภาพการช่วยชีวิตของผู้ป่วยวิกฤต ลดการปล่อยมลพิษ และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ในทุกมิติ
๒. ยานยนต์หลัก Geely Farizon EV Ambulance SuperVan
หัวใจของโครงการนี้คือรถพยาบาลพลังงานไฟฟ้า Geely Farizon SuperVan Long Range ที่ได้รับการออกแบบเพื่อภารกิจแพทย์ฉุกเฉินโดยเฉพาะ
• ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร กำลังสูงสุด ๑๗๐ กิโลวัตต์ แรงบิด ๓๓๖ นิวตันเมตร
• ทำความเร็วได้สูงสุด ๑๓๕ กิโลเมตรต่อชั่วโมง เงียบ ปลอดการสั่นสะเทือน เหมาะกับผู้ป่วยวิกฤต
• แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟตขนาด ๘๒.๘๘ กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งได้ไกล ๒๘๒ กิโลเมตรต่อการชาร์จ (WLTP)
• ตัวถังขนาด ๕,๙๙๕ x ๑,๙๘๐ x ๒,๕๐๐ มิลลิเมตร พื้นที่ภายใน ๑๓ ลูกบาศก์เมตร
• รัศมีวงเลี้ยว ๗.๓๕ เมตร รองรับน้ำหนักบรรทุก ๑,๐๘๐ กิโลกรัม และน้ำหนักรวมทั้งคัน ๓,๕๐๐ กิโลกรัม
• ประตูท้ายเปิด ๑๘๐ องศา อำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
รถคันนี้ถูกออกแบบให้เป็น “ห้องปฏิบัติการช่วยชีวิตขั้นสูงบนล้อ (Mobile Life Space)” ที่เงียบ ปลอดภัย และเหมาะกับการทำงานของบุคลากรการแพทย์ในสถานการณ์วิกฤต
๓. ระบบช่วยชีวิตขั้นสูง (Advanced Life Support Systems)
ภายในรถพยาบาลติดตั้งครุภัณฑ์ทางการแพทย์ระดับมาตรฐานโลก ครบถ้วนตามระบบการช่วยชีวิตขั้นสูง (ALS) เพื่อให้สามารถดูแลผู้ป่วยวิกฤตได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่หน้างานจนถึงโรงพยาบาล
๓.๑ เครื่องกระตุกหัวใจและมอนิเตอร์สัญญาณชีพแบบมัลติฟังก์ชัน
• หน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด ๙ นิ้ว ความละเอียดสูง ปรับความสว่างอัตโนมัติ
• รองรับการใช้งานในโหมด Manual, AED และ Synchronized Cardioversion
• ปล่อยพลังงานสูงสุด ๓๖๐ จูลย์ ใช้งานได้มากกว่า ๒๒๐ ครั้งต่อการชาร์จ
• แสดงสัญญาณชีพครบ ECG 12-lead, SpO₂, NIBP, EtCO₂ และ Temp
• มี Ultrasound Point-of-Care (POCUS) ในตัวเครื่องกระตุกหัวใจ ช่วยให้แพทย์ตรวจหัวใจ ช่องท้อง หรือหลอดเลือดแบบเรียลไทม์
• เชื่อมต่อข้อมูลผ่าน Wi-Fi, Bluetooth, และ 5G เข้าสู่ศูนย์กลางของโรงพยาบาล
๓.๒ เครื่องช่วยหายใจสำหรับการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยหนัก (Transport Ventilator)
• น้ำหนักเพียง ๖.๕ กิโลกรัม หน้าจอสัมผัสขนาด ๑๐.๑ นิ้ว
• ใช้ระบบแรงดันอากาศในตัว (Built-in Turbine)
• รองรับโหมด Invasive, Non-Invasive และ Oxygen Therapy
• มีโหมด AMV™ (Adaptive Minute Ventilation) และ IntelliCycle™ Pro ปรับรอบหายใจอัตโนมัติ
• ใช้งานได้ในทุกสภาพอากาศ ตั้งแต่ -20°C ถึง +50°C
• มีระบบ CPRV™ Mode และ CQI™ Index สำหรับการช่วยฟื้นคืนชีพ
• ส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบ BeneVision CMS ผ่าน 5G, Wi-Fi หรือ Bluetooth
๓.๓ ระบบกดหน้าอกฟื้นคืนชีพอัตโนมัติ (Automated CPR System)
• กลไกกดหน้าอกอัตโนมัติ ความถี่ ๑๐๐ ครั้ง/นาที ลึก ๕–๖ ซม. ตามมาตรฐาน AHA
• ใช้งานได้ต่อเนื่องขณะเคลื่อนย้ายโดยไม่ลดประสิทธิภาพ
• มีระบบวัดแรงกดแบบเรียลไทม์ (Active Decompression)
• ใช้งานด้วยแบตเตอรี่ภายในอย่างน้อย ๖๐ นาทีต่อรอบการทำงาน
๓.๔ กล้องใส่ท่อช่วยหายใจแบบพกพา (Handheld Video Laryngoscope)
• กล้องความละเอียดสูง แสดงภาพทางเดินหายใจแบบเรียลไทม์
• ใช้ได้ในผู้ป่วยที่มีทางเดินหายใจยาก (Difficult Airway)
• ใบมีดเปลี่ยนได้ทั้งแบบใช้ซ้ำและใช้ครั้งเดียว
• ใช้แบตเตอรี่ในตัว ใช้งานต่อเนื่องได้หลายชั่วโมง
๓.๕ เครื่องควบคุมการให้ยาและสารน้ำแบบอัจฉริยะ (Infusion Pump & Syringe Pump System)
• ระบบควบคุมอัตราการให้ยาและสารละลายด้วยความแม่นยำสูง
• มีหน้าจอแสดงปริมาตรและเวลาคงเหลือแบบเรียลไทม์
• มีระบบ Drug Library ป้องกันการให้ยาเกินขนาด (Dose Error Reduction)
• รองรับการเชื่อมต่อกับระบบ eMAR และ HIS
• ระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติเมื่อมีการอุดตันหรือแรงดันผิดปกติ
๓.๖ ระบบภาพและเสียงเพื่อการสื่อสารทางไกล (Audio–Visual Telemedicine System via 5G)
• กล้องและไมโครโฟนความละเอียดสูงภายในห้องโดยสาร
• เชื่อมต่อผ่านเครือข่าย 5G เพื่อส่งภาพ เสียง และสัญญาณชีพแบบเรียลไทม์ไปยังโรงพยาบาล
• สนับสนุนการสื่อสารสองทางระหว่างแพทย์หน้างานและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
๓.๗ ระบบนำทางอัจฉริยะ (Navigator & Dispatch Integration)
• แสดงเส้นทางแบบเรียลไทม์ (Real-Time GPS) เชื่อมโยงศูนย์สั่งการ EMS
• คำนวณเส้นทางที่เร็วที่สุดโดยอัตโนมัติ
• แสดงตำแหน่งรถและเวลาถึงโดยประมาณ (ETA) เพื่อให้ศูนย์ควบคุมเตรียมความพร้อมรับผู้ป่วย
๔. ระบบเชื่อมต่อข้อมูลและความปลอดภัย
รถพยาบาลทุกคันในโครงการสามารถเชื่อมต่อเข้าสู่ศูนย์ข้อมูลกลาง (Central Command)
ผ่านเครือข่าย 5G ข้อมูลทั้งหมดถูกเข้ารหัสเพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย
๕. วิสัยทัศน์ของ SMD100
ดร. วิโรจน์ วสุศุทธิกุลกานต์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และหัวหน้าสถาปนิกนโยบายสุขภาพ
บริษัท เอสเอ็มดี ไรส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวไว้ว่า
“รถพยาบาลพลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่นี้ คือการผสานระหว่างพลังงานสะอาด เทคโนโลยีการช่วยชีวิต และระบบข้อมูลแบบเรียลไทม์เข้าด้วยกัน
เรากำลังเปลี่ยน ‘รถพยาบาล’ ให้เป็น ‘ระบบชีวิตขั้นสูงเคลื่อนที่ (Mobile Life System)’
ที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ยุคใหม่ของระบบแพทย์ฉุกเฉินในอาเซียน”
๖. สรุปและทิศทางอนาคต
SMD100 ตั้งเป้าพัฒนาเครือข่าย Smart EV Ambulance Fleet เชื่อมต่อโรงพยาบาลศูนย์ทั่วประเทศ
รองรับระบบ Tele-EMS, Smart Hospital, และ Green Healthcare
ภายใต้หลักการ Healthcare 5.0
โครงการนี้ไม่เพียงสร้างนวัตกรรม แต่ยังสะท้อนบทบาทของประเทศไทยในฐานะ ศูนย์กลางเทคโนโลยีสุขภาพแห่งภูมิภาคอาเซียน
📞 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ฝ่ายการตลาดและพันธมิตรเชิงกลยุทธ์
บริษัท เอสเอ็มดี ไรส์ จำกัด (มหาชน)
อีเมล: info@smdrise.com
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon