TISCO ESU ชี้ IMF ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปีนี้ขึ้นเป็น 3.2% ขณะที่คงมุมมองการเติบโตของปี 2026F ไว้ที่ 3.1% สะท้อนโมเมนตัมที่จะชะลอลงในระยะข้างหน้า

18

Source: Bloomberg, TISCO Economic Strategy Unit (TISCO ESU)

  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยประมาณการเศรษฐกิจชุดใหม่ในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (WEO)  โดย IMF ปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจโลก ปี 2025F เป็น  3.2% YoY เพิ่มขึ้นจากประมาณการครั้งก่อนในเดือน ก.ค. 2025 ที่ 3.0% ขณะที่ IMF คงคาดการณ์การเติบโตของปี 2026F ไว้ที่ 3.1% อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจโลกยังมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 3.7% ต่อปี (ค่าเฉลี่ยตั้งแต่ปี 2000-2019) นอกจากนี้ IMF ระบุเพิ่มว่าความเสี่ยงต่อประมาณการยังคงโน้มไปทางด้านต่ำ (“Still Tilted to the Downside”)
  • หากพิจารณาเป็นรายประเทศ  มีรายละเอียดสำคัญดังต่อไปนี้
    • สหรัฐฯ – IMF ปรับคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจสำหรับปี 2025F และ 2026F ขึ้น +0.1ppt เป็น 2.0% และ 2.1% ตามลำดับ โดยการปรับขึ้นในครั้งนี้เป็นผลจากอัตราภาษีศุลกากรเฉลี่ยที่เรียกเก็บกับทุกประเทศไม่ได้สูงมากเมื่อเทียบกับช่วงเดือน เม.ย. ขณะที่นโยบายการคลังมีแนวโน้มผ่อนคลายลง หลังสภาได้มีการผ่านงบประมาณ OBBBA รวมถึงภาวะการเงิน (Financial Condition) ที่ผ่อนคลายลง
    • ยูโรโซน – IMF ปรับคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจสำหรับปี 2025F ขึ้น +0.2ppt เป็น 1.2% ส่วนหนึ่งเป็นผลจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศนับตั้งแต่ต้นปีแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะในประเทศไอร์แลนด์ ขณะที่ในปี 2026F IMF ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจลงเล็กน้อย -0.1ppt เป็น 1.1% ส่วนหนึ่งเป็นผลจากภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ที่จะกดดันการส่งออก ขณะเดียวกัน แม้รัฐบาลเยอรมนีจะดำเนินนโยบายการคลังเชิงผ่อนคลายแต่ไม่สามารถชดเชยผลกระทบด้านลบได้ทั้งหมด
    • ญี่ปุ่น – IMF ปรับคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจสำหรับปี 2025F และ 2026F ขึ้น +0.4ppt และ 0.1ppt เป็น 1.1% และ 0.6% ตามลำดับ โดยหลักเป็นผลจากอุปสงค์ภายในประเทศที่มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการเติบโตของค่าจ้างแรงงาน ซึ่งจะส่งผ่านไปยังการบริโภคภาคเอกชน
    • จีน – IMF คงคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจสำหรับปี 2025F และ 2026F ไว้ที่ 4.8% และ 4.2% ตามลำดับ โดย IMF ยังมองว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีนตั้งแต่เข้าปี 2025 ได้รับอานิสงค์จากการเร่งส่งออกไปยังประเทศต่างๆ และรวมถึงการบริโภคภาคเอกชนที่ในช่วงก่อนได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ซึ่งช่วยชดเชยผลกระทบเชิงลบของภาษีศุลกากร
    • ไทย – IMF คงคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจสำหรับปี 2025F ไว้ที่ 2.0% แต่ปรับลดคาดการณ์ในปี 2026F ลงเล็กน้อย -0.1ppt เป็น 1.6%
  • IMF ระบุเพิ่มว่าความเสี่ยงต่อประมาณการยังคงโน้มไปทางด้านต่ำ โดยหากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้ายังคงยืดเยื้อ จะส่งผลให้ภาคธุรกิจจำเป็นต้องชะลอแผนการลงทุนออกไป ขณะเดียวกัน การกลับเข้ามาใช้เครื่องมือทางภาษีและมิใช่ภาษีเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศ (Protectionism Measures) ของประเทศต่างๆ จะกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานและประสิทธิภาพการผลิตได้
  • โดยสรุป IMF มองเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวได้แข็งแรงกว่าที่เคยประเมินไว้เล็กน้อยจากอัตราภาษีที่สหรัฐฯ จัดเก็บจริงนั้นต่ำกว่าที่เคยประเมิน ขณะเดียวกัน บางประเทศเริ่มดำเนินนโยบายการคลังเชิงผ่อนคลายมากขึ้น ซึ่งจะช่วยชดเชยผลกระทบด้านลบของภาษีศุลกากรได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังสะท้อนภาพของการชะลอลงต่อเนื่องจากปี 2024 แม้ธนาคารกลางหลักหลายแห่งของโลกจะทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมาอย่างต่อเนื่องก็ตาม

Today’s Data Releases

  • ญี่ปุ่น: ยอดคำสั่งซื้อสินค้าเครื่องจักร (Core Machine Orders) เดือน ส.ค.
  • สหรัฐฯ: ยอดค้าปลีก (Retail Sales), ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ก.ย., ยอดขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) สิ้นสุดสัปดาห์ ณ วันที่ 11 ต.ค. และดัชนีการเคหะ (NAHB Housing Market Index) เดือน ต.ค.

Key economic indicators

Source: Bloomberg, TISCO Economic Strategy Unit (TISCO ESU)

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon