Pi Daily น่าจะเห็นการฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทยในวันนี้

15

มิติหุ้น – ตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ปิดบวก 238 จุด (+0.5%) สงครามการค้า ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนกลับมาผ่อนคลายระยะสั้นหลังจากทรัมป์ระบุว่าภาษี นําเข้าจากจีนระดับ 100% ไม่สามารถดําเนินระยะยาวได้ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 0.4% หลังจากที IEA คาดการณ์ว่าอุปทานจะเพิ่มขึ้นในปีหน้า

สหรัฐฯ ยังคงปิดหน่วยงานเช่นเดิมในวันศุกร์ที่ผ่านมาแต่อย่างไรก็ตามตลาด หุ้นสหรัฐฯ ยังคงปรับขึ้น โดยเฉพาะหุ้น Technology NVIDIA +0.78% AAPL +2% Alphabet +0.7% ประกอบกับความกังวลธนาคารขนาดกลางก็คลี่คลาย ลงบ้างหลังมีการรายงานผลประกอบการที่ดีกว่าคาดรวมไปถึงทังผู้นําสหรัฐฯ และจินยังคงยืนยันจะพบเจอกัน ช่วยให้ตลาดคลายกังวลเกียวกับขอพิพาท การค้า ส่วนสินทรัพย์อื่นๆ พบว่า US Bond Yield เริ่มกลับมาฟื้นตัวพร้อมกับ US Dollar แต่อย่างไรกัตามราคาทองคําปรับลดลงอย่างมีนัยยะส่วนหนึ่งอาจ เป็นเพราะว่าราคาทองคําปรับขึ้นมาค่อนข้างเยอะและสวนทางกับ Dollar Index ที่ ไม่ได้อ่อนค่าแรงเท่าใดนัก ระยะสั้นอาจเพิ่มความระมัดระวังต่อราคาทองคํา

สําหรับตลาดหุ้นไทยในวันศุกร์ปรับตัวลงมา 16.8 จด (-1.3%) แรงกดดันหลักๆ จากหัน DELTA ที่กดดันดัชนีมากถึง 5 จุด มองเป็นเพียงแรงกดดันจากการ ปรับลงของตลาดห้นทัวโลกจากความกังวลธนาคารในสหรัฐฯ แต่ก็ยังประเมิน ว่าปัญหาธนาคารในสหรัฐฯยังค่อนข้างเล็กน้อยและไม่น่าจะเป็นปัญหาระดับ ใหญ่ถึงวิกฤตซึ่งในวันศุกร์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เริ่มกลับมาฟื้นตัว วันนีจึงน่าจะเริ่ม เห็นตลาดหุ้นไทยกลับมาฟื้นตัวได้บ้าง คืนนี้ยังคงไม่มีปัจจัยสําคัญที่ต้อง ติดตามเพราะสหรัฐฯยังปิดหน่วยงานเช่นเดิม

✍️วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1260 – 1285 ตลาดน่าจะมีการฟื้นตัวหลังวันก่อนปรับฐาน รับแรงกดดันจากความกังวลธนาคารสหรัฐฯ แต่ผลกระทบเชื่อว่าจํากัดและไม่ ถึงกับเป็นวิกฤตใหญ่ประกอบกับตลาดหุ้นไทยมีแรงหนุนจากการออกมาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจในวันอังคารนี้ที่คาดว่าจะมีมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ดังนันในเชิงกลยุทธ์การลงทุนจังหวะปรับฐานของดัชนีมองเป็นโอกาสสะสมหุ้น ในกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากภาครัฐ อาทิ ค้าปลีก (BJC CPALL CPAXT HMPRO) ท่องเทียว (AOT CENTEL MINT ERW) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) รวมไปถึงห้นได้ประโยชน์จากดอกเบียปรับลง อาทิ การเงิน (MTC SAWAD) อสังหาริมทรัพย์ (AP SPALI)

SCB (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 146.00 บาท)
คาดกำไรสุทธิใน 3Q25 ที่ 11.5 พันล้านบาท (+5.1% YoY, -10% QoQ) ปัจจัยหนุนกำไรเพิ่มขึ้น YoY เนื่องจากสำรองหนี้ฯ และค่าใช้จ่ายดำเนินงานลดลง อย่างไรก็ดี คาดกำไรจะปรับลดลง QoQ กดดันจากรายได้
ดอกเบี้ยสุทธิลดลงจากสินเชื่อชะลอตัว และ NIM ลดลงอย่างต่อเนื่อง

AWC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 2.60 บาท)
คาดกำไรปกติปี 2025 เติบโต 4% YoY หนุนจากรายได้คาดเติบโตที่ 1.7 หมื่นล้านบาท (+8% YoY) แม้ GPM
คาดอ่อนตัวที่ 53% (-1 ppts YoY) จากต้นทุนค่าใช้จ่ายการเปิดโครงการ

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon