มิติหุ้น – สรุปภาพรวมตลาด ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (17 ต.ค.) หลังการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 จากธนาคารระดับภูมิภาคช่วยลดความกังวลเรื่องความเสี่ยงด้านสินเชื่อ ขณะที่นักลงทุนประเมินถ้อยแถลงล่าสุดเกี่ยวกับจีนจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 46,190.61 จุด เพิ่มขึ้น 238.37 จุด หรือ +0.52%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,664.01 จุด เพิ่มขึ้น 34.94 จุด หรือ +0.53% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 22,679.9 จุด เพิ่มขึ้น 117.4 จุด หรือ +0.52%
อย่างไรก็ดี ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้น ในช่วงเช้าวันนี้ (20 ต.ค.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า ภาษีนำเข้าในอัตรา 100% ที่เขาขู่ว่าจะเรียกเก็บจากสินค้าจีนนั้นจะเป็นมาตรการที่ไม่ยั่งยืน โดยคำกล่าวของทรัมป์ส่งสัญญาณถึงท่าทีที่อ่อนลงต่อจีน
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยืนยันว่า เขาจะพบปะกับปธน.สี จิ้นผิง นอกรอบการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค ซึ่งจะจัดขึ้นที่เกาหลีใต้ระหว่างวันที่ 31 ต.ค. ถึง 1 พ.ย.นี้
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันศุกร์ (17 ต.ค.) เนื่องจากสัญญาณความตึงเครียดด้านสินเชื่อของธนาคารภูมิภาคสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนวิตก และหันไปถือสินทรัพย์ปลอดภัย
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 566.24 จุด ลดลง 5.42 จุด หรือ -0.95% แต่บวกขึ้นเล็กน้อย 0.4% ในรอบสัปดาห์นี้
• สรุปภาพรวมสินทรัพย์อื่นๆ สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 2% ในวันศุกร์ (17 ต.ค.) หลังจากแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เหนือ 4,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ และถ้อยแถลงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ที่ระบุว่าการเก็บภาษีสินค้าจีนในอัตรา 100% นั้นจะไม่สามารถดำเนินการได้ในระยะยาว
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 91.30 ดอลลาร์ หรือ 2.12% ปิดที่ 4,213.30 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ หรือ 0.38% ปิดที่ 61.29 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) คาดการณ์ว่าจะเกิดภาวะน้ำมันล้นตลาดมากขึ้น ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เห็นพ้องจะพบปะกันอีกครั้งเพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน
• SET Index: เราคาดการณ์กรอบ SET Index 1,270-1,285 จุด คาดหวัง technical rebound ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ จับตาแนวรับ/ต้านบริเวณ 1,270 จุด และ รายงานผลประกอบการณ์ไตรมาส 3
หุ้นแนะนำ
CPALL: แม้ว่า SSSG ยังมีแนวโน้มอ่อนตัว แต่ CPALL น่าจะยังมีกำไรสุทธิเติบโตใน 3Q25 จาก GPM ที่สูงขึ้น และ เทรดดิ้งตามจิตวิทยาการลงทะเบียน “คนละครึ่งพลัส” วันนี้
(Take profit : 48.50 / Stop loss : 46.50)
ADVANC: เราประเมินกำไรสุทธิของ AIS ในไตรมาส 3/2025 อยู่ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.4% จากปีก่อน และ 0.3% จากไตรมาสก่อน ยังคงน้ำหนักการลงทุน (Overweight) จากการขยายตัวของ ARPU บนมือถือจากการใช้งานข้อมูลที่เพิ่มขึ้น AIS ยังคงเป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม
(Take profit : 301.00 / Stop loss : 295.00)
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
