CGSI : Investment Strategy

17

มิติหุ้น – Investment Strategy
• สรุปภาพรวมตลาด ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (23 ต.ค.) หลังจากทำเนียบขาวยืนยันว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะพบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ในสัปดาห์หน้า ซึ่งคำยืนยันดังกล่าวช่วยคลายความวิตกกังวล หลังจากตลาดเผชิญกับความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการพบปะกันระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 46,734.61 จุด เพิ่มขึ้น 144.20 จุด หรือ +0.31%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,738.44 จุด เพิ่มขึ้น 39.04 จุด หรือ +0.58% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 22,941.80 จุด เพิ่มขึ้น 201.40 จุด หรือ +0.89%

ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันพฤหัสบดี (23 ต.ค.) นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังสหรัฐฯ ประกาศมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อรัสเซีย ขณะที่นักลงทุนจับตาความแข็งแกร่งของภาคธุรกิจยุโรปจากรายงานผลประกอบการของหลายบริษัท
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 574.43 จุด เพิ่มขึ้น 2.14 จุด หรือ +0.37%

• สรุปภาพรวมสินทรัพย์อื่นๆ สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (23 ต.ค.) เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์เป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 80.2 ดอลลาร์ หรือ 1.97% ปิดที่ 4,145.60 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.40 ดอลลาร์ หรือ 5.43% ปิดที่ 65.99 ดอลลาร์/บาร์เรลหลังจากสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรบริษัทน้ำมันรายใหญ่ของรัสเซีย เพื่อกดดันให้รัสเซียยุติสงครามในยูเครน ซึ่งการดำเนินการของสหรัฐฯ ส่งผลให้บริษัทพลังงานในจีนและอินเดียต่างพากันพิจารณาลดการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย

• SET Index: เราคาดการณ์กรอบ SET Index 1,300-1,315 จุด / จับตารายงานผลประกอบการณ์ไตรมาส 3 และ เจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ หลังจากทำเนียบขาวยืนยันว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะพบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ในสัปดาห์หน้า รวมถึง การเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ในวันนี้

หุ้นแนะนำ
KBANK:
กำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 2568 อยู่ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท (+8.7% yoy, +4.2% qoq) สูงกว่าประมาณการของเราในไตรมาส 3 ปี 2568 ถึง 14.5% และสูงกว่าที่ Bloomberg คาดการณ์ไว้ 16% เราปรับเพิ่มส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NET Interest Margin) จาก 3.21% เป็น 3.37% และ เราปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตของรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยสำหรับปี 2568 จาก 6.4% เป็น 18.1% เนื่องจากกำไรจากการลงทุนและตราสารทางการเงิน และการคาดการณ์การเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิที่แข็งแกร่งขึ้น

(Take profit : 183.00 / Stop loss : 179.00)

CENTEL:
เราคาดการณ์รายได้ของ CENTEL จะเพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับปีก่อนในปี 2569 จากการขยายโรงแรมในมัลดีฟส์และการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทย
เราคาดว่าธุรกิจโรงแรมและอาหารของ CENTEL ในประเทศไทยจะได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในไตรมาส 4 ปี 2568

(Take profit : 33.50 / Stop loss : 31.50)

#CGSInternational
#CGSI

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon