
มิติหุ้น – Investment Strategy
• สรุปภาพรวมตลาด ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันศุกร์ (24 ต.ค.) ขานรับการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ออกมาต่ำกว่าคาด ซึ่งสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง และตลาดยังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนด้วย
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 47,207.12 จุด เพิ่มขึ้น 472.51 จุด หรือ +1.01%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,791.69 จุด เพิ่มขึ้น 53.25 จุด หรือ +0.79% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 23,204.87 จุด เพิ่มขึ้น 263.07 จุด หรือ +1.15%
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดทำสถิติสูงสุดในวันศุกร์ (24 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ออกมาต่ำกว่าคาด และความหวังต่อการผ่อนคลายความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ขณะที่นักลงทุนประเมินผลประกอบการของบริษัทต่างๆ
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 575.76 จุด เพิ่มขึ้น 1.33 จุด หรือ +0.23%
• สรุปภาพรวมสินทรัพย์อื่นๆ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 7.80 ดอลลาร์ หรือ 0.19% ปิดที่ 4,137.80 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยในระหว่างวันราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นบางส่วนหลังข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาดเล็กน้อย ทำให้นักลงทุนมั่นใจมากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังคงปิดตลาดสัปดาห์นี้ในแดนลบเป็นครั้งแรกในรอบ 10 สัปดาห์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 5 เซนต์ หรือ 0.08% ปิดที่ 65.94 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากตลาดเริ่มเกิดความสงสัยเกี่ยวกับความจริงจังของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการดำเนินมาตรการคว่ำบาตรบริษัทน้ำมันรายใหญ่สองแห่งของรัสเซียจากกรณีการทำสงครามในยูเครน
• SET Index: เราคาดการณ์กรอบ SET Index 1,290-1,320 จุด โดย SET Index มีโอกาสแกว่งตัว sideway up ในวันนี้ โดยเราคาดว่า SET ยังคงมีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียต่อไป สัปดาห์นี้ในด้านปัจจัยต่างประเทศ ติดตามการประชุมระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนที่จะพบปะกันในวันพฤหัสบดีที่ 30 ต.ค และผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดปรับลดดอกเบี้ย ซึ่งจะรู้ผลในเช้าวันที่ 30 ต.ค.
หุ้นแนะนำ
CENTEL: เราคาดการณ์รายได้ของ CENTEL จะเพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับปีก่อนในปี 2569 จากการขยายโรงแรมในมัลดีฟส์และการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทย
เราคาดว่าธุรกิจโรงแรมและอาหารของ CENTEL ในประเทศไทยจะได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในไตรมาส 4 ปี 2568
(Take profit : 32.75 / Stop loss : 31.50)
SCB: เราปรับประมาณการ EPS ในปี FY25-27 ขึ้น 10.6-13.1% เนื่องจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเติบโตแข็งแกร่ง ขณะที่อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้และอัตราการสำรองหนี้สูญลดลง ซึ่งเรายังแนะนำ “ซื้อ” เนื่องจากคาดว่า SCB จะมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงที่ 8.9-9.5% ต่อปีในปี FY25-27 (สูงที่สุดในกลุ่มธนาคารไทยที่เราทำการศึกษา) และ ROE สูงถึง 10.0-10.4% ในปี FY25-27
(Take profit : 135.00 / Stop loss : 132.50)
#CGSInternational
#CGSI
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
































