Krungthai Compass ชี้ส่งออกเดือน ก.ย. 2568 ขยายตัว 19.0%YoY คาดส่งออกไทยแผ่วลงในช่วง 4Q68 และทั้งปี 2569 จาก Front-loading หมดลง และถูกกดดันจาก ความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าของประเทศหลัก

8

มิติหุ้น – Key Highlights :

  • มูลค่าส่งออกเดือน ก.. เติบโต 19.0%YoY เร่งตัวจากเดือนก่อนที่ 5.8%YoY โดยการส่งออกสินค้ากลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวต่อเนื่อง สวนทางกับสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรที่หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ขณะที่การส่งออกไปตลาดหลักส่วนใหญ่ยังขยายตัว ด้านการนำเข้าเร่งตัวจากเดือนก่อนมาอยู่ที่ 17.2%YoY ในขณะที่ดุลการค้ากลับมาเกินดุลที่ 1,275.2 ล้านดอลลาร์ฯ
  • Krungthai COMPASS มองว่าการส่งออกไทยที่ขยายตัว นอกจากจะเป็นผลจากวัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และปัจจัยพิเศษจากทองคำแล้ว ยังเป็นอานิสงส์จากการ Frontloading ซึ่งจะอ่อนแรงลงในช่วง 4Q68 และทั้งปี 2569 นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงจาก (1) การปรับ Sectoral Tariff ของทั้งไทยและคู่แข่งที่อาจกระทบความสามารถในการแข่งขันของไทย และ (2) Transshipment Tariff ที่ยังไม่ชัดเจน
    • การส่งออกไทยในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2568 เติบโตสูงถึง 13.9% สอดคล้องกับการค้าโลกที่เติบโตได้ดีคาดอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด IMF ปรับประมาณการการเติบโตของปริมาณการค้าโลก ปี 68 เพิ่มเป็น 3.6% (จาก 2.6% ณ ก.ค. 68)1
    • อย่างไรก็ดี การส่งออกรวมของไทย ในเดือน ก.. 68 ได้รับแรงส่งจากการส่งออกเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (ADP) และทองคำ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากปัจจัยชั่วคราวที่มีความไม่แน่นอน โดยเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (มีสัดส่วนในการเติบโตของการส่งออกไทย [Contribution to Growth] ที่ 5.3%) ส่วนหนึ่งสะท้อนการเร่งซื้อสินค้าบางประเภทที่ยังได้รับการยกเว้นภาษีศุลภากรตอบโต้จากสหรัฐ2 ซึ่งมีความไม่แน่นอนจากความเสี่ยงที่อาจถูกเก็บภาษี Sectoral Tariff เพิ่มเติมในอนาคต ขณะที่ทองคำ       ยังไม่ได้ขึ้นรูป (6.1%) เติบโตสูงจากความต้องการทองคำในตลาดการเงินโลกที่ผันผวนตามความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ไม่แน่นอน จึงเป็นประเด็นที่ต้องติดตามต่อไป
    • มองไปข้างหน้า พบว่าสัญญาณการส่งออกสินค้าจากประเภทส่งออกสำคัญในภูมิภาคเอเชียไปยังสหรัฐเริ่มชะลอตัวชัดขึ้น หลังจากที่เร่งส่งออกไปในช่วงก่อนหน้า (Front-loading) โดยในเดือน ก.ย. 2568 มูลค่าการส่งออกไต้หวันและเวียดนามหดตัว -32.2%MoM เวียดนาม -1.5%MoM ตามลำดับ
    • Krungthai COMPASS คาดว่าการส่งออกจะชะลอตัวลงในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2568 และคาดว่าจะหดตัวในปี 2569 ตามผล Frontloading ที่จะอ่อนแรงลง และนโยบายการค้าของประเทศหลักที่ไม่แน่นอน โดยต้องจับตาปัจจัยเสี่ยงต่อการส่งออกไทยในระยะข้างหน้า ได้แก่ (1) โอกาสที่สหรัฐฯ จะปรับอัตราภาษี Sectoral Tariff ของทั้งสินค้าส่งออกไทยและคู่แข่งเพิ่มเติม ซึ่งจะส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันของไทย (2) โอกาสที่สหรัฐฯ จะจัดเก็บภาษี Transshipment Tariff กับสินค้าส่งออก ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีความชัดเจนมูลค่าส่งออกเดือน ก.. 2568 ขยายตัว 19.0%YoY

      มูลค่าส่งออกเดือน ก.ย. อยู่ที่ 30,070.7 ล้านดอลลาร์ฯ เติบโต 19.0%YoY เร่งตัวจาก 5.8%YoY เมื่อเดือนก่อน โดยการส่งออกสินค้ากลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวต่อเนื่อง สวนทางกับสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรที่หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 สำหรับการส่งออกทองคำในเดือนนี้เร่งตัว 212.6%YoY ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อน ทำให้เมื่อหักทองคำแล้วมูลค่าส่งออกเดือนนี้ขยายตัวได้ 13.3%YoY โดยมีแรงขับเคลื่อนที่สำคัญจาก

      • การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัว 26.4%YoY ขยายตัวจาก 11.2%YoY ในเดือนก่อน โดยสินค้าสำคัญที่เติบโต ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (+57.9%) เครื่องโทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (+64.9%) รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (+14.6%) และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ (+11.3%) เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด (-16.3%) และเครื่อง
        รับวิทยุ โทรทัศน์ และส่วนประกอบ (-17.0%) เป็นต้น
      • การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรหดตัว 8.1%YoY หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 โดยสินค้าเกษตรหดตัว 18.2%YoY หดตัว 2 เดือนติด ในขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมเกษตรขยายตัวที่ 4.1%YoY กลับมาขยายตัวจากเดือนก่อน โดยสินค้าสำคัญที่หดตัว อาทิ ผลไม้สดแช่เย็น แช่แข็งและแห้ง (55.5%) ข้าว (-31.4%) ยางพารา (-15.3%) เครื่องดื่ม (-8.0%) สิ่งปรุงรสอาหาร (-7.1%) ส่วนสินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ (+37.8%) ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่น ๆ (+11.1%) ไก่แปรรูป (+9.7%) และกุ้งสด แช่เย็น แช่แข็ง (+5.9%) เป็นต้น

      การส่งออกรายตลาดสำคัญ ส่วนใหญ่ยังขยายตัวจากการส่งออกในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์    เป็นสำคัญ

      • สหรัฐฯ: ขยายตัว 35.3%YoY เติบโตติดต่อกันเป็นเดือนที่ 24 โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์ และเครื่องโทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น อุปกรณ์กึ่งตัวนำทรานซิสเตอร์ และไดโอด และผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น
      • จีน: ขยายตัว 3.2%YoY เติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น ทองแดงและของทำด้วยทองแดง เครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์ และส่วนประกอบ และผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น ด้านสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เป็นต้น
      • ญี่ปุ่น: ขยายตัว 6.2%YoY กลับมาขยายตัวจากเดือนก่อน โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ และผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น ยางพารา เม็ดพลาสติก และเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น
      • EU27: ขยายตัว 11.9%YoY กลับมาขยายตัวจากเดือนก่อน โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์ เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น ยางพาราและเครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่น ๆ เป็นต้น
      • ASEAN5: ขยายตัว 20.4%YoY เติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่น ๆ เป็นต้น
      • มูลค่าการนำเข้าเดือน ก.. อยู่ที่ 29,685.5 ล้านดอลลาร์ฯ เติบโต 17.2%YoY เร่งตัวจาก 15.8%YoY เมื่อเดือนก่อน การนำเข้าสินค้าส่วนใหญ่ต่างขยายตัว ทั้งสินค้าทุน (+23.7%YoY) สินค้าอุปโภคบริโภค (+16.6%YoY) สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป(+18.9%YoY) สินค้ายานพาหนะฯ (+31.8%YoY) ทั้งนี้ ดุลการค้าเดือน ก.ย. เกินดุล 1,275.2 ล้านดอลลาร์

      Implication:

      • การส่งออกไทยในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2568 เติบโตสูงถึง 13.9% สอดคล้องกับการค้าโลกที่เติบโตได้ดีคาดอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด IMF ปรับประมาณการการเติบโตของปริมาณการค้าโลก ปี 68 เพิ่มเป็น 3.6% (จาก 2.6% ณ ก.ค. 68)1
      • อย่างไรก็ดี การส่งออกรวมของไทย ในเดือน ก.. 68 ได้รับแรงส่งจากการส่งออกเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (ADP) และทองคำ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากปัจจัยชั่วคราวที่มีความไม่แน่นอน โดยเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (มีสัดส่วนในการเติบโตของการส่งออกไทย [Contribution to Growth] ที่ 5.3%) ส่วนหนึ่งสะท้อนการเร่งซื้อสินค้าบางประเภทที่ยังได้รับการยกเว้นภาษีศุลภากรตอบโต้จากสหรัฐ2 ซึ่งมีความไม่แน่นอนจากความเสี่ยงที่อาจถูกเก็บภาษี Sectoral Tariff เพิ่มเติมในอนาคต ขณะที่ทองคำ       ยังไม่ได้ขึ้นรูป (6.1%) เติบโตสูงจากความต้องการทองคำในตลาดการเงินโลกที่ผันผวนตามความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ไม่แน่นอน จึงเป็นประเด็นที่ต้องติดตามต่อไป
      • มองไปข้างหน้า พบว่าสัญญาณการส่งออกสินค้าจากประเภทส่งออกสำคัญในภูมิภาคเอเชียไปยังสหรัฐเริ่มชะลอตัวชัดขึ้น หลังจากที่เร่งส่งออกไปในช่วงก่อนหน้า (Front-loading) โดยในเดือน ก.ย. 2568 มูลค่าการส่งออกไต้หวันและเวียดนามหดตัว -32.2%MoM เวียดนาม -1.5%MoM ตามลำดับ
      • Krungthai COMPASS คาดว่าการส่งออกจะชะลอตัวลงในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2568 และคาดว่าจะหดตัวในปี 2569 ตามผล Frontloading ที่จะอ่อนแรงลง และนโยบายการค้าของประเทศหลักที่ไม่แน่นอน โดยต้องจับตาปัจจัยเสี่ยงต่อการส่งออกไทยในระยะข้างหน้า ได้แก่ (1) โอกาสที่สหรัฐฯ จะปรับอัตราภาษี Sectoral Tariff ของทั้งสินค้าส่งออกไทยและคู่แข่งเพิ่มเติม ซึ่งจะส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันของไทย (2) โอกาสที่สหรัฐฯ จะจัดเก็บภาษี Transshipment Tariff กับสินค้าส่งออก ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีความชัดเจน

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon