TOP วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน

34

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนผ่อนคลายลง

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา

(+) ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น  หลังความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนผ่อนคลายลง ภายหลังการเจรจาระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ  และนายสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ในการประชุมนอกรอบซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศเกาหลีใต้ส่งสัญญาณในเชิงบวก โดยสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราภาษีการนำเข้าสินค้าจากจีนจากระดับ 57% สู่ระดับ 47% โดยเฉพาะภาษีที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีตั้งต้นของเฟนทานิลจะปรับลดจากระดับ 20% สู่ระดับ 10% ขณะที่จีนจะกลับมานำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ รวมถึงยกเลิกการจำกัดการส่งออกแร่หายาก นอกจากนี้ผู้นำสหรัฐฯ ส่งสัญญาณว่าพร้อมเดินทางเยือนจีนในเดือน เม.ย. 69 และได้ส่งคำเชิญให้ผู้นำจีนเดินทางเยือนสหรัฐฯ ด้วยเช่นเดียวกัน

(+) ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ปรับเพิ่มสูงขึ้น ภายหลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ได้สั่งการให้กองทัพสหรัฐฯ ดำเนินการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์เป็นครั้งแรกในรอบ 33 ปี การสั่งการดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังรัสเซียประกาศความสำเร็จจากการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งใหม่ในช่วงวันพุธที่ผ่านมา

(-) ตลาดคาดการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัส (OPEC+) ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 2 พ.ย. นี้ ทางกลุ่มมีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มกำลังผลิตอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมันดิบ ภายหลังอุปทานน้ำมันดิบเผชิญกับความไม่แน่นอนจากมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ของสหรัฐฯ ต่อรัสเซีย โดยรายงานล่าสุดคาดว่ากลุ่มโอเปกพลัสจะมีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิตที่ระดับ 137,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือน ธ.ค. 68

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon