Pi Daily ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับฐานแต่น่าจะเป็นเพียงแรง Take Profit ปกติมากกว่า ยังไม่เห็นแรงกดดันใดๆที่มีนัยยะ ส่วนหุ้นไทยจังหวะปรับฐานยังมองเป็นโอกาสคาดหวังการฟื้นตัวช่วงปลายปี

11

มิติหุ้น – ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบ 251 จุด (-0.5%) หลังจากธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐฯ เตือนว่าตลาดหุ้นอาจจะปรับฐานจาก Valuation ที่สูง ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 0.69% ถูกกดดันจากภาวะเศรษฐกิจในภาพรวม

สหรัฐฯ ยังไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจใดๆประกาศออกมาเพราะยังอยู่ในภาวะปิดหน่วยงานเช่นเดิมแต่อย่างไรก็ตาม Dollar ทยอยแข็งค่าต่อเนื่องและกดดันหลายๆ สินทรัพย์ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตลาดทองคำ โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับลงจากกลุ่ม Technology เป็นหลัก (NVIDIA-4% Alphabet -2%) แม้จะมีรายงานว่าปรับฐานเพราะ Valuation ที่แพงแต่ก็ยังเชื่อว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ Valuation ที่สูงมีเหตุผลเพียงพอจากการเติบโตทำให้การปรับฐานยังมองเป็นเพียงระยะสั้นมากกว่า (Take Profit ปกติ) ขณะที่ VIX Index ที่สะท้อนความกังวลของนักลงทุนยังอยู่ระดับต่ำ บ่งชี้ว่ายังไม่ได้พบความผิดปกติใดๆที่มีนัยยะสำคัญ ด้านปัจจัยในประเทศเมื่อวานที่ผ่านมากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารายงานจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วง 1 ม.ค. – 2 พ.ย. สะสมที่ 26.8 ล้านราย (-7.2%YoY)

โดยจำนวนนักท่องเที่ยวมาเลเซียยังเป็นอันดับแรกที่ 3.8 ล้าน และจีนเป็นอันดับ 2 ต่อเนื่องที่ 3.79 ล้านราย แต่หากพิจารณาเป็นรายสัปดาห์จะพบว่าอยู่ที่ 6.4 แสนราย (+8.8%WoW) แต่จำนวนนักท่องเที่ยวมาเลเซีย -15%WoW จีน -2.6%WoW โดยรัสเซียเร่งขึ้นมา +11%WoW คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวอันดับที่ 4 ด้านสหรัฐฯ สวนทางกับก่อนหน้าที่พบว่า 5 อันดับแรกมักอยู่ในฝั่งเอเชีย (ญี่ปุ่น เกาหลี หลุดออกไป) ปัจจัยติดตามคืนนี้ได้แก่ตัวเลขแรงงานสหรัฐฯ (ADP) Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้ที่ 3.2 หมื่น หากแย่กว่าคาดจะเป็นปัจจัยหนุนตลาดจากความหวังการปรับลดดอกเบี้ย วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1285 – 1305 ตลาดอาจมีแรงกดดันจากการปรับลงของหุ้นทั่วโลกและหุ้นไทยอาจเผชิญแรงขายจาก DELTA ที่อาจปรับลงตาม Technology แต่เชื่อว่า Downside หุ้นไทยจะไม่สูงมากจาก Valuation หลายตัวที่ค่อนข้างถูกและมองเป็นโอกาสสะสมมากกว่าเพื่อคาดหวังการฟื้นตัวในช่วงถัดไปตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและลดดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย เชิงกลยุทธ์การลงทุนจึงแนะสะสมเช่นเดิมหากตลาดปรับฐานเน้นที่หุ้นกลุ่มค้าปลีก (BJC CPALL CPAXT) ศูนย์การค้า (CPN) ธนาคาร (SCB) ส่งออก (ITC TU) โรงแรม (MINT CENTEL) การเงิน (MTC SAWAD)

ITC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 20.50 บาท)

ปรับแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” และปรับไปใช้มูลค่าเหมาะสมปี 26 แทนที่ 20.4 บาท (18XPER’26E) มีปัจจัยบวกจากผลประกอบการงวด 3Q25 ที่ออกมาดีกว่าคาดเล็กน้อย เกิดจากยอดขายในกลุ่มขนมสัตว์เลี้ยง (Pet Treats) ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก และทำให้สัดส่วนสินค้าในกลุ่ม Premium มีสัดส่วนสูงถึง 55%

TU (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 15.30 บาท)

ไม่รวมรายการพิเศษกำไรปกติจะอยู่ที่ 1,196 ล้านบาทใกล้เคียงที่เราคาดไว้ โดยสิ่งที่ดีในไตรมาสนี้คือถ้าไม่นับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน รายได้จะกลับมาเติบโตได้อีกครั้งเมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นผลจากการฟื้นตัวในกลุ่มอาหารสัตว์ทั้งกุ้งและสัตว์เลี้ยง ส่วนเทียบกับ 2Q25 รายได้ฟื้นตัวทุกกลุ่ม

Regards,

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon