
มิติหุ้น – บริษัท ซิลิคอน คราฟท์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SICT ผู้ออกแบบและจำหน่ายไมโครชิปอัจฉริยะสัญชาติไทย รายงานผลประกอบการสำหรับไตรมาส 3/2568 มีรายได้ 159.8 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 24 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากแรงหนุนของกลุ่มไมโครชิป IoT ในภาคอุตสาหกรรม (Industrial IoT) ที่รีบาวน์กลับมาเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 87 สะท้อนความต้องการของตลาดที่แข็งแกร่งตามเทรนด์ Industry 4.0 รวมถึงไมโครชิปกลุ่มระบบลงทะเบียนสัตว์ (Animal Identification) ที่ยังคงเติบโตต่อเนื่องสอดคล้องกับการบังคับใช้ระบบระบุตัวตนอิเล็กทรอนิกส์ในปศุสัตว์ที่เพิ่มขึ้น ด้านรายได้ในสกุลเงินเหรียญสหรัฐแสดงการเติบโตโดดเด่นถึงร้อยละ 32 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวสู่ระดับสูงที่ร้อยละ 47 สะท้อนการบริหารโครงสร้างต้นทุนและกลยุทธ์การกำหนดราคาอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 12.5 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 8
ไตรมาส 3/2568 รายได้จากไมโครชิปกลุ่มระบบลงทะเบียนสัตว์ (Animal Identification) มีจำนวน 92.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า จากการขยายตัวของฐานลูกค้าในยุโรปตามการบังคับใช้ระบบระบุตัวตนอิเล็กทรอนิกส์ในปศุสัตว์ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่นำไปสู่การขยายตลาดใหม่ ๆ รายได้จากไมโครชิปกลุ่ม IoT ในภาคอุตสาหกรรม (Industrial IoT) มีจำนวน 57.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 87 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า จากการส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้แก่กลุ่มลูกค้าในเอเชียได้ตามแผน รายได้จากไมโครชิปกลุ่มระบบกุญแจอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์ (Immobilizer) มีจำนวน 9.8 ล้านบาท ปรับตัวลดลงร้อยละ 45 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ตามภาวะอุตสาหกรรมยานยนต์โลกที่ชะลอตัว อย่างไรก็ดี ผลิตภัณฑ์หลัก ULTX ยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนรายได้สำคัญในกลุ่มนี้ และเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวจากการที่ลูกค้าเริ่มกลับมาสั่งซื้อในช่วงปลายไตรมาสที่ผ่านมา สำหรับไมโครชิปกลุ่ม NFC และอื่น ๆ มีรายได้จำนวน 0.12 ล้านบาท
บริษัทได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ SIC7150 ซึ่งเป็นไมโครชิปในกลุ่มระบบลงทะเบียนสัตว์ (Animal ID) ไปแล้วในไตรมาส 2/2568 ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีเร็วกว่าคาด มีคำสั่งซื้อเข้ามาจำนวนหนึ่งแล้วในปี 2568 และจะทยอยเปิดตัวผลิตภัณฑ์อื่นต่อเนื่องอีกในช่วงท้ายของปีนี้ ครอบคลุมทั้งกลุ่ม IoT ในภาคอุตสาหกรรม (Industrial IoT) และกลุ่ม NFC พร้อมกับเพิ่มการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี (R&D) อย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันระดับสากล ซึ่งบริษัทเชื่อมั่นว่าการขยายพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์ใหม่ควบคู่กับการวิจัยพัฒนาที่ต่อเนื่อง จะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้อย่างมีนัยสำคัญในอนาคต และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว
ในส่วนของสถานการณ์มาตรการภาษีนำเข้าและภาษีตอบโต้ของสหรัฐอเมริกา ณ ปัจจุบัน สินค้าประเภทเซมิคอนดักเตอร์ (Semiconductors) ในส่วนของ IC Components ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทยังคงได้รับการยกเว้นจากการเรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงระมัดระวังและติดตามการเปลี่ยนแปลงของนโยบายการค้าระหว่างประเทศอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งพูดคุยกับลูกค้าที่มีการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐอเมริกาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อประเมินสถานการณ์และให้มั่นใจว่าจะสามารถปรับตัวและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ได้อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ จากการประเมินความเสี่ยง ณ ปัจจุบัน บริษัทมีความเห็นว่าผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับบริษัทโดยตรงยังคงอยู่ในระดับต่ำ
บริษัทให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2568 บริษัทได้จัดกิจกรรม “SIC CSR ร่วมกันคืนป่าให้โลก” นำพนักงานร่วมปลูกต้นไม้พันธุ์พื้นเมืองกว่า 160 ต้น ณ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าเขาเขียว จังหวัดชลบุรี เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ป่าและระบบนิเวศให้กลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง สร้างแหล่งอาศัยให้สัตว์ป่าได้ดำรงชีวิตตามธรรมชาติ กิจกรรมดังกล่าวยังเปิดโอกาสให้พนักงานได้ผ่อนคลายจิตใจท่ามกลางธรรมชาติ เสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมงาน และปลูกฝังจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่สะท้อนวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการเติบโตของธุรกิจ
นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส และคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนอย่างเท่าเทียม โดยเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2568 บริษัทได้รับคะแนนการประเมินการกำกับดูแลกิจการระดับ 5 ดาว หรือ “ดีเลิศ” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 จากโครงการสำรวจด้านการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียนไทยประจำปี 2568 จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) สะท้อนศักยภาพและความมุ่งมั่นของบริษัทในการยึดมั่นหลักธรรมาภิบาล เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon






























