มิติหุ้น – บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (ASPS) เปิดเผยบทวิเคราะห์ระบุว่า ตลาดหุ้นโลกร่วงแรงเมื่อคืนนี้ โดยเฉพาะฝั่งสหรัฐฯ ที่ดัชนีหลักปรับตัวลง -1.7% ถึง -2.8% จากแรงเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับขึ้นแรงตลอดปีจากกระแส AI Rally ขณะเดียวกันมีการสลับเม็ดเงินเข้าหากลุ่ม อุตสาหกรรมการเงิน พลังงาน และ Healthcare ซึ่งถือเป็นสัญญาณ “ลดเกมรุก” ของนักลงทุนในภาวะตลาดเริ่มไม่แน่นอน แม้ Government Shutdown ครั้งประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ ซึ่งยืดเยื้อถึง 43 วัน สิ้นสุดลงแล้ว หลังสภาผู้แทนราษฎรโหวตผ่านร่างงบประมาณชั่วคราว 222 ต่อ 209 เสียง และประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามบังคับใช้ แต่การกลับมาเปิดทำงานของหน่วยงานรัฐอาจใช้เวลาหลายวันถึงหลายสัปดาห์ ส่งผลให้การเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าช้า ซึ่งอาจกระทบต่อการประเมินนโยบายดอกเบี้ยของ FED ในการประชุมเดือนธันวาคมนี้
สัญญาณเด่นจากต่างประเทศ
ในฝั่งตลาดโลก เริ่มเห็นแรงขายทำกำไรในหุ้นเทคขนาดใหญ่ต่อเนื่อง โดยค่า P/E ของกลุ่ม MAG-7 พุ่งแตะระดับ 34 เท่า ซึ่งจากสถิติย้อนหลัง 4 ปี ทุกครั้งที่แตะระดับดังกล่าว มักตามมาด้วยการ รีบาลานซ์พอร์ตครั้งใหญ่ นักวิเคราะห์คาดว่าเดือนพฤศจิกายนนี้อาจเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี ที่ดัชนี NASDAQ และกลุ่ม MAG-7 ไม่สามารถปิดบวกได้ กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้นจึงแนะนำ “ลดน้ำหนักหุ้นเทค” และ “เพิ่มน้ำหนักหุ้น Defensive” โดยเฉพาะกลุ่มที่มีปัจจัยเฉพาะตัว เช่น Berkshire Hathaway (BRKB80) และ Eli Lilly (LLY80) ซึ่งได้รับแรงหนุนจากกำไรที่แข็งแกร่งและความต้องการผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพทั่วโลก
โฟกัสประเทศไทย
ฝั่งไทย การประชุม กนง. รอบเดือน ธ.ค. 68 คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.50% โดย Bond Yield 10 ปี ไทยปรับขึ้นต่อเนื่องแตะ 1.77% สูงกว่าดอกเบี้ยนโยบายราว 27 จุดฐาน (เทียบเท่าการขึ้นดอกเบี้ย 1 ครั้ง) สะท้อนมุมมองว่าเศรษฐกิจไทยแข็งแรงพอที่จะรับภาวะดอกเบี้ยสูงต่ออีกระยะ ขณะเดียวกัน ความเสี่ยง Technical Recession ของไทยลดลง และคาดว่าเศรษฐกิจไตรมาส 4/68 จะได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นภาครัฐหลายด้าน โดยเฉพาะ คนละครึ่ง พลัส และ เที่ยวดีมีคืน
ด้านกลยุทธ์การลงทุน หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีทั่วโลกเข้าสู่ช่วงพักฐาน ส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุนในไทย โดยเฉพาะ DELTA ที่อาจย่อตามหุ้นแม่ (ร่วงจากจุดสูงสุดแล้วกว่า -15%) กดดัน SET Index ฟื้นตัวยากในระยะสั้น ขณะเดียวกันนักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง 6 วันติด รวม 8.4 พันล้านบาท กลยุทธ์ช่วงนี้ควร “ลดเกมบุก เพิ่มเกมรับ” หมุนเงินเข้าสู่หุ้นที่มีแรงซื้อผ่าน NVDR และปัจจัยบวกเฉพาะตัว หุ้นเด่นสัปดาห์นี้: BDMS, TOP, AMATA, BH และ SJWD
สรุปหุ้นเด่นประจำวัน
GLOBAL GEM : LLY80 / BRKB80
PRIME PICK : BDMS / SJWD / TOP
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
