GARMIN HEALTH จับมือ อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เชื่อมต่อข้อมูลสุขภาพและกิจกรรมผ่านแอปฯ Healthy Living พร้อมสนับสนุนการป้องกันสุขภาพเชิงรุกของคนไทย

10

มิติหุ้น – GARMIN ผู้ส่งมอบที่สุดของความหลากหลายทางเทคโนโลยี GPS ตั้งแต่อุตสาหกรรมการบิน ยานยนต์ การเดินทะเล ฟิตเนส และกิจกรรมกลางแจ้ง จับมือ อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เชื่อมต่อข้อมูลสุขภาพและกิจกรรมผ่านแอปฯ Healthy Living เพื่อแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีและธุรกิจประกันสามารถทำงานร่วมกันเพื่อเสริมพลังให้ผู้คนตระหนักรู้ และมีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพ การดำเนินชีวิตอย่างมีข้อมูล ตลอดจนมีความเข้าใจมากขึ้น พร้อมมอบโปรโมชั่นพิเศษสำหรับ ลูกค้าอลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ด้วยส่วนลดสูงสุด 36% ผ่าน Garmin.com ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 30 ธันวาคม 2568

คุณมิสซี่ ยาง ผู้จัดการประจำ การ์มิน ประเทศไทย กล่าวว่า “Garmin มีผู้ใช้งานมากกว่า 30 ล้านคนทั่วโลก ทำให้ระบบนิเวศของสมาร์ทวอทช์จาก Garmin สามาถรวบรวมข้อมูลสุขภาพไม่ระบุตัวตน (Anonymized biometric data) เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ การติดตามกิจกรรมและการออกกำลังกาย เพื่อช่วยให้บริษัทประกันสามารถพัฒนาโปรแกรมสุขภาพที่มีความเฉพาะบุคคล เน้นการป้องกันโรค และสร้างการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ได้มากยิ่งขึ้น ดังนั้น การจับมือกับ อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิตในครั้งนี้ จึงจะสามารถช่วยติดตาม ส่งเสริมสุขภาพ มอบสิทธิประโยชน์ และช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพในระยะยาวของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

ทั้งนี้ สมาชิก Healthy Living ของอลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต สามารถแลกรับส่วนลดพิเศษจาก Garmin สูงสุดถึง 36% ผ่านเว็บไซต์ garmin.com ตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน ถึง 30 ธันวาคม 2568 โดยรุ่นที่ร่วมรายการ ได้แก่ Venu 3 / Vivoactive 5 / Vivosmart 5 / Lily 2 Sport และ Sleep Index ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดมาพร้อมการรับประกันสูงสุด 2 ปี และบริการจัดส่งฟรี

นอกจากความร่วมมือในครั้งนี้แล้ว Garmin ยังมุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน และการติดตามสุขภาพเชิงรุก โดยเฉพาะกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ที่คนไทยหลายล้านคนกำลังเผชิญอยู่ รวมถึงโรคเบาหวานที่เป็นโรคอันดับต้นๆ ในกลุ่ม NCDs ซึ่งวันที่ 14 พฤศจิกายน ถือเป็นวันเบาหวานโลก Garmin จึงอยากร่วมสร้างการรับรู้ และนำเสนอวิธีการส่งเสริมเพื่อให้คนไทยสามารถดูแลสุขภาพของตัวเองเบื้องต้น” มิสซี่ ยาง กล่าว

งานวิจัยนานาชาติระบุว่า การติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพแบบเรียลไทม์ผ่านอุปกรณ์สวมใส่ทางการแพทย์ เช่น เครื่องตรวจวัดระดับน้ำตาลอย่างต่อเนื่อง (Continuous Glucose Monitor: CGM) ช่วยให้ผู้ป่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติได้อีกด้วย โดยในภูมิภาคเอเชีย การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการดูแลโรคเรื้อรังเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งถือเป็นความหวังใหม่ในการป้องกันและดูแลโรคเบาหวาน

ในขณะเดียวกันผู้ป่วยโรคเบาหวานกำลังเพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยเอเชียเป็นภูมิภาคที่เผชิญความท้าทายอย่างหนัก จากรายงาน IDF Diabetes Atlas 2024 พบว่ามีผู้ป่วยเบาหวานในเอเชียมากกว่า 240 ล้านคน และคาดว่าจะเพิ่มเกิน 300 ล้านคนภายในปี 2045 อัตราความชุกของโรคในประชากรอายุ 20–79 ปี อยู่ที่ 11.1% ในภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตก และ 10.8% ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของยุโรปที่ 8.0% ในประเทศไทย มีผู้ป่วยโรคเบาหวานประมาณ 6.3 ล้านคน หรือคิดเป็นประมาณ 1 ใน 10 ของผู้ใหญ่ทั้งหมด โดยพบว่าอัตราการเกิดโรคในเพศหญิงสูงกว่าเพศชาย

งานวิจัยทางการแพทย์ชี้ว่า ในระยะเริ่มต้นของโรคเบาหวานชนิดที่ 2 การควบคุมอาหาร ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และควบคุมน้ำหนักสามารถนำไปสู่ภาวะ ‘การทุเลาของโรค’ ได้1 กล่าวคือ ระดับน้ำตาลในเลือดกลับมาอยู่ในเกณฑ์ปกติโดยไม่ต้องใช้ยา
อุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะ เช่น สมาร์ทวอทช์และสายรัดข้อมือสุขภาพ จึงมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนทั้งสามด้าน ได้แก่

  • การควบคุมอาหาร: Garmin Venu 4 มาพร้อมฟีเจอร์ Lifestyle Logging ให้ผู้ใช้บันทึกพฤติกรรมต่างๆ เช่น การดื่มแอลกอฮอล์หรือคาเฟอีน และสามารถดูผลกระทบต่อค่าชีวภาพได้โดยตรง
  • การออกกำลังกายสม่ำเสมอ: งานวิจัยพบว่าการได้รับข้อมูลแบบเรียลไทม์จากอุปกรณ์สวมใส่ช่วยสร้างนิสัยการออกกำลังกายต่อเนื่อง2 ซึ่งเป็นวิธีหลักในการลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2
  • การควบคุมน้ำหนัก: Garmin Index S2 Smart Scale สามารถซิงก์ข้อมูลน้ำหนักและองค์ประกอบร่างกายกับแอป Garmin Connect เพื่อให้ผู้ใช้ติดตามแนวโน้มสุขภาพระยะยาวได้อย่างง่ายดาย

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon