
มิติหุ้น – บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (ASPS) เปิดเผยบทวิเคราะห์ระบุว่า ความผันผวนยังคงกดดันตลาดหุ้นทั่วโลก โดยดัชนีสำคัญในสหรัฐฯ ย่อตัวลงแรง -0.8% ถึง -2.0% ขณะที่ยุโรปอ่อนลงอีก -0.2% ถึง -1.2% ส่วนตลาดเอเชียเช้าวันนี้ ญี่ปุ่นร่วง -1.9% และเกาหลีใต้ -1.4% สะท้อนแรงขายเพื่อลดความเสี่ยง (Risk-off) ก่อนสัปดาห์ที่อัดแน่นด้วยเหตุการณ์สำคัญที่อาจกำหนดทิศทางการลงทุนช่วงปลายปี หนึ่งในปัจจัยที่ตลาดจับตามากที่สุดคือ งบ NVIDIA ซึ่งถูกมองว่าเป็นตัวชี้วัดกระแส AI ที่อาจมีมูลค่าสูงเกินพื้นฐาน ขณะเดียวกัน FED จะเผยรายงานการประชุมเดือน ต.ค. 68 และในวันพฤหัสบดี สหรัฐฯ จะประกาศ ตัวเลขการจ้างงานเดือน ก.ย. ที่ถูกเลื่อนจาก Shutdown ซึ่งอาจมีผลโดยตรงต่อมุมมองดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปี ฝั่งญี่ปุ่นยังเจอแรงกดดันเพิ่มเติมจากตัวเลข GDP 3Q68 ที่หดตัว -1.8% QOQ เป็นครั้งแรกในรอบ 6 ไตรมาส จากผลกระทบของมาตรการภาษี (TARIFF) ที่ทำให้ภาคส่งออกและเศรษฐกิจภาพรวมอ่อนแรงลง
สัญญาณเด่นจากต่างประเทศ
ผลประกอบการเอเชียผสมผสาน แต่การเติบโตยังเดินหน้า ดัชนี HSCI รายงานกำไร 3Q25 ของบริษัทจดทะเบียนออกมาดีกว่าคาด +3.3% YOY แม้รายได้โตต่ำกว่าคาดเล็กน้อย แต่โดยรวมถือว่าเติบโตได้แข็งแรง โดยได้แรงหนุนจากกลุ่มการเงินและวัสดุอุตสาหกรรม (FINANCIALS / MATERIALS) ด้าน XPENG รายงานรายได้โตแรง +102% YOY และกำไรสุทธิ +90% YOY แม้ตัวเลขรายได้ต่ำกว่าคาดเพียงเล็กน้อย แต่ภาพรวมยังสะท้อนแนวโน้มบวกของตลาด EV จีน
โฟกัสประเทศไทย
เศรษฐกิจไทยชะลอแรง เสี่ยงเข้าสู่ภาวะ Technical Recession ตัวเลข GDP 3Q68 ของไทยออกมาต่ำกว่าคาด หดตัวเมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส จากแรงกดดันด้านการลงทุนและการใช้จ่ายภาครัฐในช่วงที่รัฐบาลยังไม่เสถียร ทำให้ความเสี่ยงต่อ Technical Recession เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวกในระยะถัดไป โดยการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณใหม่ช่วงปลายปี 2568 ถึงต้นปี 2569 มีโอกาสเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ช่วยให้เศรษฐกิจไทยพลิกกลับมาขยายตัวได้อีกครั้ง
ด้านกลยุทธ์การลงทุน เน้นตั้งรับ ถือเงินสดเพิ่ม ลดความเสี่ยง ตลาดต่างประเทศส่งสัญญาณเตือนจากกำไรกลุ่ม BDC (ปล่อยกู้ในสหรัฐฯ) ที่ลดลงเฉลี่ย -14% YOY ขณะที่ราคาหุ้นปรับลงสวนทางกับราคาหุ้นกู้ สะท้อนความกังวลต่อตลาด Private Credit ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในสัญญาณก่อนเกิดวิกฤตปี 2008 ทำให้หุ้นเทคโนโลยีเริ่มผันผวนแรงขึ้น สำหรับตลาดหุ้นไทย มีโอกาสผันผวนตามทิศทางโลก จึงแนะนำ ถือเงินสด 20–30% เพื่อรองรับจังหวะผันผวน เน้นหุ้นที่มีการซื้อหุ้นคืนต่อเนื่อง เช่น CPF, CPALL, BA, KKP
สรุปหุ้นเด่นประจำวัน
GLOBAL GEM : SPBOND80 / GOOG80
PRIME PICK : CPF / TOP / SJWD
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon

































