
มิติหุ้น – ธ.ก.ส. เดินหน้าภารกิจเพิ่มพื้นที่สีเขียวและฟื้นฟูพื้นที่ป่าชุมชนอย่างเป็นระบบจำนวน 11 แห่ง ในพื้นที่ตำบลกุดหมากไฟ จังหวัดอุดรธานี และขับเคลื่อนโครงการการใช้ต้นยางพาราเป็นหลักประกันการกู้เงิน โดยนำร่องในพื้นที่ตำบลโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู พร้อมสร้างฐานการซื้อ – ขายคาร์บอนเครดิตที่เป็นธรรมผ่านโครงการ BAAC Carbon Credit ตอบโจทย์การพัฒนาประเทศสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emission) ภายในปี ค.ศ. 2065
วันนี้ (21 พฤศจิกายน 2568) นายไพศาล หงษ์ทอง และนางสาวไข่มุก จูงใจจารุมาศ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารธนาคารลงพื้นที่ชุมชนกุดหมากไฟ อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี เพื่อติดตามการขับเคลื่อนโครงการ BAAC Carbon Credit โดยโอกาสนี้ ธ.ก.ส. ร่วมกับกรมป่าไม้ และมูลนิธิป่าชุมชน ร่วมมอบเงินให้เกษตรกรและชุมชนธนาคารต้นไม้ในพื้นที่จำนวน 25 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้ในการบริหารจัดการและการปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียว รวมถึงร่วมกันบำรุงและอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าชุมชนอย่างเป็นระบบจำนวน 11 แห่ง ในพื้นที่ตำบลกุดหมากไฟ อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี จำนวน 4,316 ไร่ ระยะเวลาดำเนินการ 10 ปี ซึ่งคาดว่าพื้นที่ดังกล่าวจะมีคาร์บอนเครดิตเกิดขึ้นกว่า 4,000 ตันคาร์บอนต่อปี สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและชุมชนจากการขายคาร์บอนเครดิตได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายผ่านโครงการลดก๊าซเรือนกระจกตามมาตรฐาน T- VER จากนั้นได้เดินทางไปยังสหกรณ์ยางพาราโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู และมอบวงเงินหลักประกันการใช้ไม้ยางพาราเป็นหลักประกันเงินกู้จำนวน 4 ราย เพื่อสนับสนุนเกษตรกรเข้าถึงแหล่งเงินทุน สร้างโอกาสในการพัฒนาปรับปรุงสวนยางเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการสวนยางอย่างยั่งยืน และเป็นส่วนหนึ่งในการเข้าร่วมโครงการ BAAC Carbon Credit เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยปัจจุบันมีเกษตรกร
เข้าร่วมแล้วกว่า 79 ราย มีพื้นที่สวนยาง 1,080 ไร่ รวมยางพาราทั้งหมด 80,000 ต้น คาดว่าจะสามารถกักเก็บก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 2,000 ตันคาร์บอน นอกจากนี้ ธ.ก.ส. ร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) กระทรวงพาณิชย์เตรียมขยายผลนำต้นยางพารามาเป็นหลักประกันเงินกู้เป็นครั้งแรกของประเทศไทย
ทั้งนี้ ธ.ก.ส. ตั้งเป้าหมายในการฟื้นฟูและรักษาพื้นที่ป่าชุมชน ควบคู่กับการดึงศักยภาพของชุมชนเข้ามามี
ส่วนร่วมในการปลูกดูแลและอนุรักษ์ป่า โดยสนับสนุนองค์ความรู้ และการติดตามประเมินผลโครงการ ตั้งแต่เริ่มต้นปลูกต้นไม้ การขึ้นทะเบียน T-VER การวัดผลประเมินคาร์บอนเครดิต จนถึงการจำหน่ายคาร์บอนเครดิตผ่านโครงการ BAAC Carbon Credit อย่างต่อเนื่อง โดย ธ.ก.ส. ยังคงเดินหน้าขึ้นทะเบียน T-VER ให้กับชุมชนธนาคารต้นไม้ที่ ธ.ก.ส. สนับสนุนกว่า 6,800 ชุมชนทั่วประเทศ ซึ่งคาดว่าจะสามารถกักเก็บปริมาณการซื้อขายคาร์บอนเครดิตสะสม 6,331 ตันคาร์บอน สร้างพื้นที่สีเขียวกว่า 20,000 ไร่ หรือคิดเป็นจำนวนต้นไม้กว่า 4.95 ล้านต้น เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรและชุมชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวลดปัญหาโลกร้อนและการเปลี่ยนอากาศบริสุทธิ์ให้กลายเป็นรายได้สู่ชุมชน อีกทั้งยังช่วยตอบโจทย์เป้าหมายการขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ. 2050 และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emission) ในปี ค.ศ. 2065
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon

































