
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานจากงาน Dinner Talk : Thailand THE NEXT 4 YEARS เมื่อวันที่ 24 พ.ย.68 ในหัวข้อ “โอกาสและความท้าทายตลาดหุ้นไทย” โดยมี “อัสสเดช คงสิริ” ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและ“ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)ร่วมงานเสวนานั้น
ตลท. ธุรกิจอนาคตไกล
ด้าน “อัสสเดช คงสิริ” ผู้จัดการ ตลท.กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยยังมีเสน่ห์ในสายตากลุ่มนักลงทุนระยะยาว และมีหลายธุรกิจที่มีอนาคตและสามารถแข่งขันบนเวทีโลกได้อาทิกลุ่ม เฮลท์แคร์ อาหาร หรือแม้แต่กลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง พร้อมยกตัวอย่างธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยถือว่าเป็นรายใหญ่ติดอันดับโลก เพียงแต่ส่วนใหญ่ยังเป็น OEM ก็ควรเร่วพัฒนาภายใต้แบรนด์บริษัทจะยิ่งเพิ่มแวลู่ เป็นต้น
“ตลท.แนะคุณภาพหุ้นไอพีโอ มากกว่าจำนวน”
นอกจากนี้ยังแสดงความคิดเห็นถึงกรณีการนำบริษัทจดทะเบียนที่มีคุณภาพเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยก็ควรเน้นธุรกิจที่มีคุณภาพและมีโอกาสเติบโตในเวทีโลกได้มากกว่าการเน้นจำนวนบจ.เข้ามา LIST ในตลาดหุ้นซึ่งไม่ได้เน้นเรื่องคุณภาพ ซึ่งสุดท้ายก็จะไม่เป็นที่สนใจของนักลงทุนต่างชาติได้
“ส่วนการมองหาธุรกิจอนาคตแต่บางครั้งยังไม่ทำกำไรก็ควรสนับสนุนซึ่งที่ผ่านมา ตลท.มีเกณฑ์อยู่แล้ว แต่ขนาดก็มีส่วนสำคัญในการดึงดูดความสนใจเช่นกัน” นายอัสสเดชกล่าว
TFSIFดึงเม็ดเงินสถาบันได้
“ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การดึงนักลงทุนสถาบัน ทั้งประกันชีวิต ประกันภัย กบข.ประกันสังคม เข้าลงทุนในการระดมทุนของรัฐวิสาหกิจในรูปแบบ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (TFSIF : Thailand Future Fund) ก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ หรือแม้แต่การแปรรูปตลาดหลักทรัพย์เข้าจดทะเบียนเช่นเดียวกับหลายตลาดหุ้นทั่วโลกที่ทำกัน อาทิ โตเกียว ฮ่องกง อเมริกา เป็นต้น ก็เป็นการดึงดูดนักลงทุนต่างประเทศได้เช่นกัน
แนะตลท.แก้เกณฑ์ซื้อหุ้นคืน
นอกจากนี้ก็ควรเร่งแก้ไขโครงการซื้อหุ้นคืน (Treasury Stock) ให้ยืดหยุ่นกว่านี้ เพื่อเออำนวยให้บริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่และมีกระแสเงินสดเพียงพอสามารถซื้อหุ้นคืนรอบที่2 ได้ง่ายขึ้น เนื่องจากราคาหุ้นบางบริษัทปรับลงไปจนต้นทุนต่ำกว่าผู้ถือหุ้น รวมถึงการดึงบริษัทต่างชาติที่ได้ BOI ที่น่าสนใจดึงเข้ามา LIST (จดทะเบียนตลาดหุ้นไทย) ไม่ใช่ดึงธุรกิจที่ไม่น่าสนใจและไม่ใช่ธุรกิจที่เป็น Nes S Curve ตามเทรนด์โลก เข้าจดทะเบียนตลาดหุ้นไทย ตรงนี้ก็ไม่สามารถดึงดูดเม็ดเงินต่างชาติได้แน่นอน
“และที่สำคัญการเก็บภาษีเงินได้จากการลงทุนต่างประเทศและมีกำไร ก็ควรคิดให้รอบคอบ เพราะสุดท้ายเงินก้อนดังกล่าวกลุ่ม Private Banking ต่างประเทศดูดเงินไปบริหารและไม่เข้าประเทศไทยด้วย”
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon

































