
มิติหุ้น – ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 664 จุด (+1.4%) ได้แรงหนุนจากความคาดหวังว่า FED จะลดดอกเบี้ยหลังจากที่ข้อมูลเศรษฐกิจอ่อนแอ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 1.4% หลังจากยูเครนส่งสัญญาณยอมรับข้อตกลงของสหรัฐฯ
เมื่อคืนสหรัฐฯได้ประกาศตัวเลขเศรษฐกิจประกอบไปด้วย (1) ดัชนีราคาผู้ผลิตพบว่าใกล้เคียงกับนักวิเคราะห์คาดการณ์ แต่อย่างไรก็ตามดัชนีราคาผู้ผลิตฝั่งพื้นฐานขยายตัวต่ำเพียง 0.1%MoM และต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 0.2%MoM (2) ยอดค้าปลีกที่ขยายตัวเพียง 0.2%MoM ต่ำกว่านักวิเคราะห์ประเมินไว้ที่ 0.4%MoM ยอดขายสินค้าเกี่ยวข้องกับยานยนต์กลับมาหดตัว 0.3%MoM พร้อมกับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ -0.5%MoM บ่งชี้ถึงผู้บริโภคระมัดระวังมากขึ้นเกี่ยวกับการจับจ่าย กดดันให้ US Bond Yield ปรับลงต่อเนื่องและ Dollar Index อ่อนค่าช่วยหนุนเงินบาทแข็งค่าทดสอบระดับ 32.25 บาท / ดอลลาร์สหรัฐฯ จากก่อนหน้าที่ 32.5 บาท / ดอลลาร์สหรัฐฯมองบวกกับกระแสเงินทุน ด้านปัจจัยในประเทศ เมื่อวานที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ประกาศมูลค่าส่งออกไทยประจำเดือน ต.ค. ขยายตัว 5.7%YoY แต่หากไม่รวมสินค้าเกี่ยวข้องกับน้ำมัน ทองคำ และอาวุธ จะขยายตัว 15.7%YoY แรงหนุนหลักยังมาจากการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์รวมถึงสินค้ากลุ่มยานยนต์และภาคผลิตที่อยู่ในภาวะขยายตัว แต่อย่างไรก็ตามสินค้าเกษตรส่วนใหญ่หดตัว มีเพียงผลไม้กระป๋องและแปรรูปที่ขยายตัว +15%YoY กุ้งสดแช่เย็น +24%YoY อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป (-5%YoY) เครื่องดื่ม (-10%YoY) สำหรับสินค้าอุตสาหกรรมที่ขยายตัวได้แก่คอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ +67%YoY ยานยนต์และส่วนประกอบ +16%YoY ดีต่อหุ้น AH SAT DELTA
นอกจากนี้ด้วยความคาดหวังว่า FED จะลดดอกเบี้ย (CME FED Watch ล่าสุดให้น้ำหนัก 84% ที่ FED จะลดดอกเบี้ยเดือน ธ.ค. และเมื่อประกอบกับน้ำท่วมในหาดใหญ่กับภาคใต้สร้างความเสี่ยงเศรษฐกิจไทยผสานกับเงินเฟ้อที่ต่ำยิ่งเพิ่มความน่าจะเป็นในการลดดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1260 – 1280 ตลาดมีจิตวิทยาเชิงบวกจากการปรับขึ้นของหุ้นสหรัฐฯ ประกอบกับความคาดหวังลดดอกเบี้ยของ FED , ธนาคารแห่งประเทศไทยจะเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้น คืนนี้รอติดตามจำนวนขอรับสวัสดิการว่างงานที่ 2.26 แสนรายหากมากกว่าคาดการณ์จะหนุนตลาด ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนเน้นที่ Theme ดอกเบี้ยปรับลง อาทิ การเงิน (MTC TIDLOR) อสังหาฯ (AP SPALI) ค้าปลีก (CPALL HMPRO DOHOME) กลุ่มธนาคาร (SCB) หากปรับลงมาจากความกังวลดอกเบี้ยมองเป็นโอกาส
TIDLOR (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 24.00 บาท)
ผลการดำเนินงานใน 3Q25 แข็งแกร่ง กำไรสุทธิสูงกว่าคาดที่ 1.4 พันล้านบาท (+42% YoY, +9% QoQ) และ NPL ratio ลดลงที่ 1.7% ผลการดำเนินงานที่ดีกว่าคาดใน 3Q25 ทำให้มองว่ากำไรสุทธิในปี 2025 มีแนวโน้มเติบโตสูงกว่าคาดที่ 19% เป็นการเติบโตที่คาดว่าโดดเด่นที่สุดหนึ่งในกลุ่มไมโครไฟแนนซ์
MTC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 48.00 บาท)
ผลการดำเนินงานใน 3Q25 แข็งแกร่ง กำไรสุทธิอยู่ที่ 1.7 พันล้านบาท (+16% YoY, +5% QoQ) และ NPL ratio ทรงตัวที่ 3.6% เราคงประมาณการคาดกำไรสุทธิในปี 2025 จะขยายตัว 14% ดังนั้น คาดว่ากำไรสุทธิใน 4Q25 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทั้ง YoY และ QoQ หนุนจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิขยายตัวล้อกับสินเชื่อที่แนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon




























