
มิติหุ้น – บมจ.ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP) เปิดตัวสินค้าใหม่ “เจเล่ เยลลี่ โซดา” นวัตกรรมกิน–ดื่มบวกความซ่าแบบโซดาในขวดเดียวกันครั้งแรกในไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ไม่ใช่แค่ดื่มซ่า แต่เคี้ยวซ่าได้” มีให้เลือก 3 รสชาติยอดนิยม สตรอว์เบอร์รีโซดา, ส้มโซดา และมิกซ์ฟรุตครีมโซดา เจาะตรงกลุ่ม Gen Z ที่ชื่นชอบความสนุกและการแชร์ประสบการณ์ ฟากผู้บริหาร “วิโรจน์ วชิรเดชกุล” ระบุเตรียมส่งสินค้าปูพรม 600 โรงเรียนทั่วประเทศ เดือนธันวาคมนี้ มั่นใจสร้างกระแสไวรัลบน TikTok พร้อมผลักดันยอดขายทะลุ 150 ล้านบาท และก้าวขึ้นเป็นสินค้าเรือธง ขับเคลื่อนการเติบโตในอนาคต
นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) (SNNP) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เปิดตัวสินค้าใหม่ “เจเล่ เยลลี่ โซดา” นวัตกรรมกิน–ดื่ม ผสาน เยลลี่หนึบ + ความซ่าแบบโซดาในขวดเดียวกัน ครั้งแรกในไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์โดนใจ “ไม่ใช่แค่ดื่มซ่า แต่เคี้ยวซ่าได้!” เจาะกลุ่ม Gen Z เตรียมปูพรมเข้าถึงกว่า 600 โรงเรียนทั่วประเทศในเดือนธันวาคม 2568 และขยายเพิ่มเติมในต้นปี 2569
ทั้งนี้ “เจเล่ เยลลี่ โซดา” มาพร้อมกับ 3 รสชาติยอดนิยม ได้แก่ สตรอว์เบอร์รีโซดา, ส้มโซดา และมิกซ์ฟรุตครีมโซดา ในราคาเข้าถึงง่ายเพียง 10 บาท พร้อมแผนวางจำหน่ายด้วยขนาด (Size) ที่เหมาะสมกับช่องทางโมเดิร์นเทรด โดยตั้งเป้ายอดขายราว 150 ล้านบาท
โดยบริษัทฯ เดินหน้าแผนการตลาดครบวงจร ทั้งออฟไลน์, ออนไลน์ และอินฟลูเอนเซอร์ เจาะตรงกลุ่ม Gen Z ที่มองหาความสนุกสนานและการแชร์ประสบการณ์ คาดว่าจะสร้างกระแสไวรัลบน TikTok ตั้งแต่วันแรกที่เปิดตัว และตั้งเป้าให้ผลิตภัณฑ์นี้ก้าวขึ้นเป็น “สินค้าเรือธง” ที่ช่วยผลักดันยอดขายในอนาคต
ปัจจุบัน SNNP ปรับกลยุทธ์การตลาดครั้งใหญ่ มุ่งเน้นการสร้างแบรนด์ (Brand Building) และการสื่อสารที่เข้าถึงจริง โดยลดการใช้พรีเซ็นเตอร์ แต่เพิ่มการลงทุนด้านแบรนด์และคอนเท้นต์ที่เชื่อมโยงกับผู้บริโภค พร้อมจัดกิจกรรมกระตุ้นยอดขาย เช่น แคมเปญพิเศษให้แฟนคลับร่วมสนุกกับศิลปิน ในด้านช่องทางขาย Modern Trade ล่าสุดมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะแมคโคร (Makro) ที่เป็นดาวเด่นเติบโตสูงถึง 16% จากความร่วมมือด้าน PDQ (Pre-Determined Quantity Display) และโปรโมชั่นใหม่ ขณะที่ร้านค้าปลีก (Traditional Trade) คาดว่าจะฟื้นตัวตามมาตรการภาครัฐในต้นปีหน้า
“สำหรับกลยุทธ์ในปีหน้า บริษัทฯ กำหนดยุทธศาสตร์ Invest in Core Business มุ่งเน้นสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์ เพิ่มประสิทธิภาพช่องทางจัดจำหน่าย และผลักดันการฟื้นตัวของตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่ม CLMV พร้อมเสริมไลน์สินค้าใหม่ในหลายหมวดหมู่ เพื่อรองรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและเทรนด์การบริโภคยุคใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับสินค้าราคาเข้าถึงง่าย สนุก และแชร์ต่อได้” นายวิโรจน์ กล่าวในที่สุด
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon




























