
มิติหุ้น – วันศุกร์ที่ผ่านมาสหรัฐฯประกาศเงินเฟ้อ (PCE) พบว่าขยายตัว 2.8%YoY ใกล้เคียงกับที่ Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้ สอดคล้องกับเงินเฟ้อพื้นฐานที่ขยายตัว 2.8%YoY เป็นไปตามที่ Bloomberg Consensus คาดไว้ ในขณะที่มหาวิทยาลัยมิชิแกนได้รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคพบว่าดีขึ้นจากครั้งก่อนและมากกว่าคาดการณ์ รายละเอียดภายในระบุว่าความเชื่อมั่นขยับดีขึ้นโดยเฉพาะในคนรุ่นใหม่ นอกจากนี้พบว่าผู้บริโภคมีความคาดหวังเพิ่มมากขึ้น ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสถานะการเงิน จากเงินเฟ้อที่สอดคล้องกับคาดการณ์และยังอยู่ระดับสูงผสานกับความเชื่อมั่นปรับดีขึ้น กดดันให้ US Bond Yield ทยอยปรับขึ้น (ระยะสั้นสร้างแรงกดดันเล็กน้อยต่อตลาดหุ้นทั้งไทยและต่างประเทศ)
สำหรับปัจจัยในประเทศยังมิได้มีปัจจัยอะไรที่มีนัยยะสำคัญทำให้ SET INDEX วันศุกร์ปิดทรงตัว (-0.08%) นักลงทุนหันไปให้น้ำหนักเป็นรายตัวมากกว่าอย่าง AOT ที่ปรับขึ้นเด่นจากความชัดเจนทั้ง King Power , การปรับขึ้นค่าบริการสนามบิน (PSC) หากปีหน้าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาจะเป็นปัจจัยเชิงบวกอย่างมากกับหุ้น AOT แต่อย่างไรก็ตามด้วยราคาหุ้นที่ปรับขึ้นมา 5.5% ระยะสั้นอาจเผชิญแรงทำกำไรบ้างแต่การปรับตัวลงยังมองเป็นโอกาสท่ามกลางปัจจัยต่างๆที่คลี่คลาย คืนนี้ไม่มีปัจจัยสำคัญต้องติดตามแต่ระหว่างสัปดาห์เข้มข้นจากประชุม FED , ตำแหน่งเปิดรับสมัครงาน , คนขอรับสวัสดิการว่างงานรวมไปถึงประชุมคณะรัฐมนตรีของไทย วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1260 – 1280 ตลาดยังไร้ปัจจัยใหม่ๆทำให้กรอบการเคลื่อนไหวอาจจำกัดแต่ก็มีปัจจัยหนุนสั้นๆจากการกระตุ้นตลาดของรัฐมนตรีคลังพร้อมกับหากประชุม FED ส่งสัญญาณผ่อนคลายมองตลาดหุ้นทั่วโลกมีโอกาสขยับขึ้นต่อ ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนแนะหันไปมองหากลุ่มค้าปลีก (CPALL HMPRO) ที่ยัง Laggard ท่องเที่ยวที่ยัง Laggard (MINT) รวมไปถึงพวกศูนย์การค้า (CPN) กลุ่มได้ประโยชน์ดอกเบี้ยปรับลง (MTC SAWAD TIDLOR) อสังหาฯ (AP SPALI)
KTB (ถือ / ราคาเป้าหมาย 29.50 บาท)
(Trading ระยะสั้น) แม้ผลการดำเนินงานจากธุรกิจธนาคารจะชะลอตัวกดดันจากการชะลอตัวของสินเชื่อ และ NIM ลดลงจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่การเพิ่มรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจากธุรกิจ Wealth management และธุรกิจด้านต่างประเทศ (Global market) ช่วยลดทอนผลกระทบได้บางส่วนดังนั้น คาดกำไรสุทธิในปี 2025 จะปรับสูงขึ้น 7%
AWC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 2.60 บาท)
แนวโน้มปี 2026 คาดฟื้นตัวจากฐานต่ำ ประกอบกับ 6 โครงการใหม่ที่ทยอยเปิดในปี 2025 คาดส่งเสริมให้ Occupancy รวม หนุนรายได้หลักคาดเติบโต 8%/10% YoY ในปี 2025/26
Regards,
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon






























