
มิติหุ้น – บมจ. มาสเตอร์ สไตล์ (โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช) หรือ MASTER ส่งสัญญาณไตรมาส 4 ลุยต่อ พร้อมเสริมทัพ-ผนึกกำลัง ผู้บริหารใหม่ ตั้งเป้ารายได้ต่างชาติ แตะ 30% ในระยะกลาง เผยปรับ
กลยุทธ์รับมือแนวโน้มครึ่งปีแรก 2569 มุ่งเน้นสร้างระบบให้แข็งแกร่ง และบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ – พัฒนา Product Mix และเพิ่มสัดส่วนบริการเฉพาะทางที่มี Margin สูง
นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER เปิดเผยว่า ประเมินทิศทางธุรกิจไตรมาส 4/2568 มีแนวโน้มทรงตัว โดยได้รับแรงสนับสนุนจากความต้องการด้านศัลยกรรม และบริการด้านความงาม ในประเทศที่ทยอยปรับดีขึ้น สำหรับกลุ่มลูกค้าต่างชาติยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะในบริการศัลยกรรมเฉพาะทาง ซึ่งมีอัตราค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเคสสูงกว่าลูกค้าในประเทศอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลดีต่ออัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทฯ แม้ว่าลูกค้ากัมพูชาจะชะลอลงจากสถานการณ์ชายแดน แต่ภาพรวมรายได้จากตลาดต่างประเทศยังเติบโตแข็งแกร่ง
“เราคาดว่าไตรมาส 4/2568 จะเห็นการฟื้นตัวจากไตรมาส 3/2568 โดยเฉพาะกลุ่มเคสต่างชาติ และลูกค้าไทยที่ทยอยกลับมาใช้บริการ จากกำลังซื้อที่เริ่มฟื้นตัว ขณะที่บริษัทฯ ยังคงเน้นการบริหารต้นทุนและแพทย์ให้มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งเดินหน้าสร้างการเติบโตจากกลุ่มบริการที่มี margin สูง” นายแพทย์
ระวีวัฒน์ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้มีการแต่งตั้งนางสาวประภาวรินท์ ลองงาม เป็นรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เพื่อเข้ามาเสริมทัพในองค์กร ทั้งในส่วนของระบบหน้าบ้านและหลังบ้าน รวมถึงการวางระบบบริหารจัดการและการพัฒนาศักยภาพทีมการตลาด รวมถึงการบริหารจัดการตารางแพทย์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด สำหรับการแต่งตั้งครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมและขยายกำลังทัพให้มีความพร้อมในการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว
นางสาวลภัสรดา เลิศภานุโรจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจครึ่งปีแรกของ 2569 และกลยุทธ์รับมือการแข่งขันว่าบริษัทฯ ประเมินว่าในปี 2569 อุตสาหกรรมศัลยกรรมและเสริมความงามของไทยจะยังเติบโตในอัตราที่ชะลอลง ตามประมาณการของศูนย์วิจัยกสิกรไทยที่คาดว่า ตลาดจะเติบโตเพียง 1.0% เทียบกับ 1.6% ในปี 2568 แม้จำนวนผู้ใช้บริการและอัตราค่าบริการจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่ภาวะเศรษฐกิจและการแข่งขันที่เข้มข้นยังคงเป็นแรงกดดันหลักต่อกำลังซื้อ และการขยายฐานลูกค้าใหม่
MASTER เตรียมปรับแผนธุรกิจเชิงรุก โดยเน้น 3 แกนกลยุทธ์สำคัญ ได้แก่:
- การบริหารต้นทุนและโครงสร้างราคาที่เหมาะสม เพื่อรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับที่แข็งแรง แม้ภายใต้ภาวะการแข่งขัน
- การขยายฐานลูกค้าต่างชาติอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพสูง และต้องการศัลยกรรมเฉพาะทาง เช่น อินโดนีเซีย เมียนมา และลาว พร้อมตั้งเป้ารายได้ต่างชาติแตะระดับ 30% ของรายได้รวมภายใน 2 ปี
- การพัฒนา Product Mix และเพิ่มสัดส่วนบริการเฉพาะทางที่มีมาร์จิ้นสูง รวมถึงการร่วมมือกับพันธมิตรในธุรกิจโรงพยาบาลศัลยกรรม และธุรกิจเสริมอาหารเพื่อความงาม
- 4. การป้องกันระบบภายในให้แข็งแกร่ง โดยเฉพาะการป้องกันการประกอบธุรกิจ
ค้าแข่ง
นางสาวลภัสรดา กล่าวทิ้งท้ายว่า แม้อุตสาหกรรมในภาพรวมอาจเผชิญแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจหรือพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป แต่ตลาดความงามในภูมิภาคยังคงถูกมองว่ามีศักยภาพสูง และบริษัทฯ มีจุดแข็งด้านคุณภาพการให้บริการ ทำให้คาดว่าแนวโน้มครึ่งปีแรกของปี 2569 จะมีทิศทางที่เติบโต
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon






























