MEDEZE ลั่นขอเป็น “ไบโอ ฟาร์มาซูติคอล” เบอร์ 1 ของเอเชีย

36

“นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์”  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ ของบมจ.เมดีซ กรุ๊ป หรือ MEDEZE  ได้ประกาศถึงเจตนารมณ์ที่จะนำ MEDEZE ขึ้นเป็นนัมเบอร์วัน  “ไบโอ ฟาร์มาซูติคอล” ด้านสเต็มเซลล ของเอเชีย ทั้งในแง่ของ ผลประกอบการ และมาร์เก็ตแคป

สิ่งที่ MEDEZE กำลังขับเคลื่อน และเร่งผลักดัน คือ การก้าวเข้าสู่ การเป็นผู้ผลิตยาเพื่อการบำบัดรักษาขั้นสูง หรือ ATMPs : Advanced Therapy Medicinal Products
            “นิยามของ ATMPs ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์สำหรับมนุษย์ที่มีส่วนผสมของยีน เซลส์ หรือ เนื้อเยี่อของสิ่งมีชีวิต ที่มุ่งหมายสำหรับใช้ในการวินิจฉัย บำบัด บรรเทา รักษา หรือ ป้องกันโรคหรือความเจ็บป่วยของมนุษย์ หรือมุ่งหมายสำคัญให้เกิดผลแก่สุขภาพ โครงสร้าง หรือกระทำหน้าที่ใดๆ ของร่างกายของมนุษย์”

การยกระดับเป็นผู้ผลิตยา ATMPs จะสร้าง “บิ๊กแบง” ให้เกิดกับ MEDEZE เพราะจากข้อมูลพบว่า ตลาดATMP ทั่วโลกคาดว่าจะเพิ่มจาก 42 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2025  เป็น 170 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2034 เติบโตเฉลี่ยประมาณ 16.8% ต่อปี เนื่องจากการบำบัดขั้นสูงนำมาใช้ในระบบสาธารณสุขอย่างแพร่หลายมากขึ้น

นอกจากนี้ พบว่าการบำบัดด้วยเซลล์เติบโตเร็วยิ่งกว่า โดยเพิ่มจาก 7.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 44.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี 22.4% ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาก้าวหน้า ผลลัพธ์ทางคลินิกได้รับการพิสูจน์ และการสนับสนุนที่เข้มแข็งขึ้นจากทั้งภาครัฐและอุตสาหกรรม

ในส่วนของประเทศไทยเอง ทางด้านกระทรวงสาธารณสุข ได้ประกาศเป้าหมาย ต้องการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นผู้นำระดับโลกด้านผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ขั้นสูง หรือ ATMPs ภายในปี 2573  ผลักดันใน 5 โรคเบื้องต้น คือ ข้อเข่าเสื่อม หมอนรองกระดูกเสื่อม ชะลอวัย มะเร็งลำไส้ใหญ่ และผิวหน้าเสื่อมตามวัย  โดยคาดหวังว่าจะต้องขึ้นทะเบียนยา อย่างน้อย 2 โรคในแต่ละปี คาดการณ์ว่าจะสร้างมูลค่ารายได้ 266,708 ล้านบาท

ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการทดลองทางคลินิกเพื่อการผลิตยาใหม่ครั้งแรกของประเทศไทย ผ่านแซนด์บอกซ์ 2 แห่ง คือศูนย์การแพทย์บางรัก และโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต โดยเก็บสเต็มเซลล์จากเซลล์ไขมันจากอาสาสมัคร ทดลองรักษาอาสาสมัครด้วยยา ATPMs และติดตามผล 6 เดือน หลังจากจะส่งผลงานวิจัย แล้วจึงจะสามารถขึ้นทะเบียนยาได้

“คุณหมอวีรพล” กล่าวว่า ในส่วนของ MEDEZE เอง มีศักยภาพพร้อมจะครองมูลค่าตลาดมากกว่า 2.87 หมื่นลบ. จากกลุ่มเป้าหมายเพียง 10% ของตลาดที่สามารถเข้าถึงทั้งหมดใน 5 กลุ่มโรคดังกล่าว  คาดหวังจะขึ้นทะเบียนยาได้ 2 โรค ภายในปี 69 คือ ข้อเข่าเสื่อม กับผิวหน้าเสื่อม

 

            “การจะขึ้นเป็นเบอร์ 1 ของเอเชีย ไม่ใช่เรื่องเกินจริง เพราะหากไปพิจารณาเทียบกับบริษัทในระดับโลกเราล้ำหน้ามาเยอะ บริษัทระดับโลก ไม่มีใครทำเหมือนเรา บางบริษัทให้บริการเพียงฝากสเต็มเซลล์ บางแห่งทำแค่เพาะสเต็มเซลล์(ไบโอเทค) แต่ของMEDEZE เราทำทั้ง 2 อย่างในบริษัทแห่งเดียว และหากเทียบเคียงแล้วมีเพียง Vcanbio บริษัทจากจีนที่ทำเหมือนกัน แม้รายได้ของเขาจะสูงกว่าแต่กำไรสุทธิใกล้เคียงกัน ขณะที่ราคาหุ้นของ MEDEZE ยังถูกกว่า ดังนั้นโอกาสการเติบโตของMEDEZE ยังไปได้อีกไกล” คุณหมอวีรพล กล่าว

 

ปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตของMEDEZE

  1. ATMPs จะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักสำคัญ โดยภายใน 2 ปี หลังขึ้นทะเบียนยาATMPs สำเร็จ รายได้จากATMPs จะกลายเป็นรายได้หลักของกลุ่ม โดยมาจากบริการรักษาและผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองทางการแพทย์ โดยมีกลุ่มลูกค้าคือ โรงพยาบาลและคลินิก
  2. Cell Banking Expansion เมื่อการใช้ ATMPs เริ่มแพร่หลายมากขึ้น ผู้ป่วยใหม่จำนวนมากที่ยังไม่เคยเก็บเซลล์มาก่อนจะต้องเริ่มฝากเซลล์กับMEDEZE เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการรักษาในอนาคต ส่งผลให้รายได้จากการเก็บและการฝากเซลล์เติบโตต่อเนื่อง
  3. Franchise Model ที่ฟิลิปปินส์ ในปี 69 และ มองโกเลียในปี 70 โดยวางเป้าขยายแฟรนส์ไชส์ใหม่ปีละ 1 ประเทศ โดยจะมีรายได้จาก 4 ช่องทางได้แก่ ค่าบริการออกแบบและให้คำปรึกษาระบบธนาคารเซลล์ ค่าธรรมเนียมการใช้Know-how ค่าลิขสิทธิ์การใช้แบรนด์ “MEDEZE” และรายได้จากการจำหน่ายวัตถุดิบและน้ำยาให้กับแฟรนไชส์

 

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon