
มิติหุ้น – บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (ASPS) เปิดเผยบทวิเคราะห์ระบุว่า ตลาดหุ้นไทย (SET Index) ปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่นเมื่อวานนี้ ด้วยอัตราการเพิ่มขึ้น +1.54% นับเป็นหนึ่งในการปรับตัวขึ้นที่แรงที่สุดในกลุ่มตลาดโลก การฟื้นตัวนี้ได้รับแรงหนุนจากเม็ดเงินที่ไหลเข้าสู่หุ้นกลุ่ม VALUE อย่างต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สาม พร้อมกับการแข็งค่าของเงินบาทกว่า 1.8% เมื่อเทียบเดือนต่อเดือน (MTD) ซึ่งช่วยหนุนให้ FUND FLOW ไหลเข้าตลาดหุ้นไทย
เศรษฐกิจไทย: วิกฤตเป็นโอกาส คาดการณ์ลดดอกเบี้ย
แม้ว่าเศรษฐกิจไทยกำลังชะลอตัวและอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค (TECHNICAL RECESSION) ในการประกาศ GDP ไตรมาส 4 ปี 2568 ซึ่งอาจส่งผลให้แนวโน้มดอกเบี้ยอยู่ในขาลงและเงินบาทอ่อนค่าลงตาม แต่ข้อมูลทางสถิติในอดีตชี้ให้เห็นว่าหลังจากถึงจุดนี้ ตลาดหุ้นไทย (SET INDEX) มักจะดีดตัวขึ้นแรง โดยเฉลี่ย +3.9% ภายใน 1 เดือน และ +8.8% ภายใน 2 เดือนข้างหน้า ปัจจัยสำคัญที่น่าจับตาคือการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 17 ธ.ค. 68 โดยนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ (23 ใน 24 ราย หรือคิดเป็นโอกาส 96%) คาดการณ์ว่า กนง. จะประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงจาก 1.50% เหลือ 1.25% ซึ่งการลดดอกเบี้ยเป็นหนึ่งในสิ่งที่มักเกิดขึ้นหลังจากที่ไทยประสบภาวะ Technical Recession ในอดีต
แรงหนุนจากหุ้น ESG และการปรับดัชนี
ตลาดหุ้นไทยยังได้รับแรงสนับสนุนจากประเด็นด้าน ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) โดยมีหุ้นใน SET100 กว่า 39 บริษัทที่ได้รับการปรับเพิ่ม ESG RATING หุ้นที่ได้รับการปรับอันดับขึ้นเหล่านี้ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง +1.7% เมื่อวานนี้ ซึ่งสูงกว่าการเพิ่มขึ้นของ SET Index โดยรวม ตัวอย่างหุ้นที่ปรับเพิ่มอันดับและมีราคาบวกแรง ได้แก่ AOT (จาก A เป็น AA) +7%, AAV (จาก – เป็น AAA) +6%, และ AWC (จาก AA เป็น AAA) +5% นอกจากนี้ การประกาศรายชื่อหุ้นเข้าใหม่ในดัชนี SET50 สำหรับรอบ 1H69 ได้แก่ SAWAD และ CENTEL และหุ้นเข้าใหม่ใน SET100 ได้แก่ GFPT, PTG, และ STECON ถือเป็นปัจจัยเชิงบวกที่ช่วยรองรับเม็ดเงินจากกองทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ภาพรวมตลาดโลก: สหรัฐฯ เผชิญความเสี่ยง Stagflation ส่วนจีนเศรษฐกิจชะลอ
ในขณะที่ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัว ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงย่อตัวอย่างต่อเนื่องราว -0.1% ถึง -0.8% โดยเฉพาะในกลุ่มเทคโนโลยี ตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยง STAGFLATION ในสหรัฐฯ ซึ่งอาจเพิ่มความกังวลต่อตลาดหุ้น หากมีสัญญาณเศรษฐกิจซบเซาและอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูง คืนวันที่ 16 ธ.ค. 68 ตลาดจะติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรสหรัฐฯ เดือน พ.ย. 68 ซึ่งคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นเพียง 50,000 ราย และในวันที่ 18 ธ.ค. 68 จะมีการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) เดือน พ.ย. 68 ซึ่งตลาดคาดว่าจะสูงขึ้นถึง 3.1%YOY ทำจุดสูงสุดในรอบปี ในฝั่งจีนยังมีความเสี่ยงต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ เนื่องจากยอดขายปลีกเดือน พ.ย. 68 เพิ่มขึ้นเพียง 1.3%YOY ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ และทำจุดต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงวิกฤตโควิด สะท้อนถึงอุปสงค์ในประเทศที่อ่อนแอ
Global Highlight: ZIJIN MINING และ TESLA โดดเด่น
- ZIJIN MINING GROUP (2899HK): บริษัทผู้ผลิตทองคำและทองแดงรายใหญ่ที่สุดของจีนและใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก เป็นผู้เล่นที่ได้รับประโยชน์โดยตรงจากราคาแร่โลหะมีค่าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงถึง +142% เมื่อเทียบปีต่อปี (YTD)
- TESLA (TSLA US):ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นถึง +3.56% แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 ปี หลัง Elon Musk ยืนยันว่า TESLA กำลังทดสอบรถแท็กซี่ไร้คนขับ (ROBOTAXI) โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยนั่งอยู่ด้วย
สรุปหุ้นเด่นประจำวัน
GLOBAL GEM : ZIJIN80 / MA80
PRIME PICK : AWC / ERW / BDMS
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon






























