ภาครัฐ-เอกชน ผนึกกำลังเตรียมจัดงานเจรจาธุรกิจพลังงาน ระบบปรับอากาศ และห้องปลอดเชื้อ ASEE & ARHC 2026

11

มิติหุ้น – ตอบรับความต้องการพลังงานของภูมิภาคอาเซียนที่จะเพิ่มขึ้น 60% ในปี 2040 ภาครัฐ-เอกชนของประเทศไทยและจีน เตรียมจัดงานแสดงสินค้าเจรจาธุรกิจระดับนานาชาติ เพื่ออุตสาหกรรมพลังงานอัจฉริยะ เทคโนโลยีกักเก็บพลังงาน ระบบปรับอากาศ ทำความเย็น และห้องปลอดเชื้อ โซลูชันอาคารประหยัดพลังงาน นำทัพผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศกว่า 400 รายร่วมจัดแสดงเทคโนโลยีและบริการพร้อมกันสองงานภายใต้ชื่อ ASEE 2026 : ASEAN Smart Energy & Energy Storage Expo ซึ่งมุ่งเน้นโซลูชันพลังงานอัจฉริยะและระบบกักเก็บพลังงาน และ ARHC 2026 : ASEAN RHVAC & Cleanroom Industry Expo ที่เน้นเทคโนโลยีระบบปรับอากาศ เครื่องทำความเย็น และห้องปลอดเชื้อ ระหว่างวันที่ 25 – 27 มีนาคม 2569 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี คาดผู้ร่วมงานจากทั่วโลกกว่า 18,000 คน

นายนรุณ สุขสมาน รองเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (TISI) กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวระหว่างแถลงข่าวความร่วมมือจัดงาน ASEE 2026 – ASEAN Smart Energy & Energy Storage Expo และ ARHC 2026 – ASEAN Refrigeration, Heating & Cooling Expo ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าเจรจาธุรกิจระดับนานาชาติ เพื่ออุตสาหกรรมพลังงานอัจฉริยะ เทคโนโลยีกักเก็บพลังงาน ระบบปรับอากาศ ทำความเย็น และห้องปลอดเชื้อ รวมถึงโซลูชันอาคารประหยัดพลังงาน ฯลฯ ที่จะนำผู้ประกอบการจากไทยและต่างประเทศกว่า 400 รายร่วมจัดแสดงเทคโนโลยีและบริการควบคู่กันครั้งแรกในอาเซียน ระบุว่า การพัฒนาเศรษฐกิจอุตสาหกรรมของประเทศในระยะยาว โดยเฉพาะด้านพลังงานอัจฉริยะ เทคโนโลยีกักเก็บพลังงาน ระบบปรับอากาศ ทำความเย็นและห้องปลอดเชื้อ โซลูชันอาคารประหยัดพลังงาน ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมไทย และเป็นปัจจัยสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านประเทศสู่ความยั่งยืนตามแนวทาง BCG Economy และ Net Zero

กระทรวงอุตสาหกรรม โดย สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มีบทบาทสำคัญในการกำหนด พัฒนา และยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ให้มีคุณภาพ ปลอดภัย และสอดคล้องกับมาตรฐานสากล เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเข้าถึงตลาดใหม่ๆ ได้อย่างมั่นใจ เชื่อถือได้ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเทียบเท่าระดับนานาชาติ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด และระบบความเย็น ซึ่งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในภูมิภาคนี้ ดังนั้น การจัดงาน ASEE และ ARHC 2026 ระหว่างวันที่ 25 – 27 มีนาคม 2569 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี จึงเป็นโอกาสอันดี ที่จะเชื่อมโยงวิสาหกิจไทยกับเทคโนโลยีและมาตรฐานสากล ผ่านการพบปะผู้ผลิต ผู้เชี่ยวชาญ และพันธมิตรด้านเทคโนโลยีจากทั่วโลก

นายณรงค์ วัชรเสถียร ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจเกี่ยวเนื่อง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT) กล่าวเสริมในฐานะองค์กรหลักด้านพลังงานของประเทศไทย EGAT มุ่งมั่นขับเคลื่อนนโยบายด้านพลังงานสะอาด พร้อมทั้งส่งเสริมความร่วมมือกับภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม เพื่อร่วมพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถนำไปใช้งานจริง สร้างประโยชน์ต่อระบบไฟฟ้า เศรษฐกิจ และสังคมไทย เชื่อว่าการจัดงานทั้งสองงานนี้ จะช่วยผลักดันให้เกิดความร่วมมือใหม่ๆ และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบ การไทยได้เข้าถึงเทคโนโลยีที่มีศักยภาพสูง โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคพลังงานอนาคตอย่างเต็มรูปแบบ

ในยุคที่โลกกำลังก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานอย่างรวดเร็ว ทั้งจากกระแสพลังงานสะอาด การลดก๊าซเรือนกระจก และการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล EGAT มีบทบาทสำคัญในการรักษาความมั่นคงของระบบไฟฟ้าของประเทศ ควบคู่ไปกับการลงทุนและวิจัยนวัตกรรมด้าน พลังงานหมุนเวียน ระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage) และเทคโนโลยีใหม่ที่สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ Low-Carbon Energy System สำหรับงาน ASEE และ ARHC 2026 ถือเป็นเวทีสำคัญที่รวบรวมผู้เชี่ยวชาญ ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และผู้นำเทคโนโลยีจากทั่วโลกมาร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และแนวทางพัฒนานวัตกรรมด้านพลังงานอัจฉริยะ รวมถึงโซลูชันระบบทำความเย็นและควบคุมอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการพัฒนาระบบไฟฟ้าและอุตสาหกรรมของประเทศให้ทันสมัยและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น

นายหวัง เจ้าหยุน ประธานบริหาร บริษัท กวางตงแกรนเดอร์เอ็กซิบิชั่น กรุ๊ป และ กรรมการบริหารสมาคมส่งเสริมการลงทุนระหว่างประเทศแห่งประเทศจีน กล่าวว่า ในปัจจุบันกระบวนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของโลกกำลังเร่งตัวอย่างต่อเนื่อง การปฏิวัติพลังงานที่ยึด ความสะอาด ความอัจฉริยะ และประสิทธิภาพสูง เป็นแกนหลัก กำลังปรับโฉมโครงสร้างอุตสาหกรรมอย่างลึกซึ้ง ภูมิภาคอาเซียน ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูง ยังคงมีความต้องการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน การเปลี่ยนผ่านสู่โครงสร้างพลังงานสีเขียวก็มีความจำเป็นเร่งด่วนตามรายงานของ องค์การพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) และศูนย์พลังงานอาเซียน คาดการณ์ว่า ภายในปี ค.ศ. 2040 ความต้องการพลังงานของภูมิภาคอาเซียนจะเพิ่มขึ้นประมาณ ร้อยละ 60 โดยการขยายการใช้พลังงานหมุนเวียนจำเป็นต้องเร่งให้รวดเร็วยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกันระบบกักเก็บพลังงาน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสำคัญในการรักษาสมดุลของโครงข่ายไฟฟ้าและเพิ่มศักยภาพการรองรับพลังงานหมุนเวียน กำลังเผชิญกับความต้องการของตลาดที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดการบูรณาการและนวัตกรรมระหว่าง พลังงานอัจฉริยะ และ เทคโนโลยีการกักเก็บพลังงาน จึงได้กลายเป็นเส้นทางหลักในการขับเคลื่อนอาเซียนสู่ ความมั่นคงทางพลังงาน การพัฒนาอย่างยั่งยืน และเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายใต้บริบทดังกล่าว การจัดงาน ASEE และ ARHC 2026 หรือมหกรรมอาเซียนด้านพลังงานอัจฉริยะและการกักเก็บพลังงาน 2026 จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ไม่เพียงเป็นเวทีนานาชาติสำหรับการจัดแสดงเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และโซลูชันล่าสุดเท่านั้น แต่ยังเป็นสะพานสำคัญในการสร้างฉันทามติระดับภูมิภาค ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างต้นน้ำและปลายน้ำของห่วงโซ่อุตสาหกรรม และร่วมกันกำหนดทิศทางสู่อนาคตสีเขียว

ภายในงานดังกล่าวมุ่งเน้นนำเสนอรอบด้านทั้ง พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานไฮโดรเจน โครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ แบตเตอรี่กักเก็บพลังงาน เทคโนโลยีพลังงานความร้อน ระบบบริหารจัดการ และบริการพลังงานแบบบูรณาการ นอกจากนี้ ยังสอดคล้องกับกระแสการเติบโตของ อุตสาหกรรมคลีนและอุตสาหกรรมระบบทำความเย็น ในปัจจุบัน โดยในปี 2568 นโยบายการเข้าตลาดของภาคธุรกิจในสาขานี้มีความผ่อนคลายมากขึ้น ส่งผลให้จำนวนผู้ประกอบการรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อผสานกับแรงสนับสนุนด้านนโยบาย การเปลี่ยนผ่านพลังงานของอาเซียน และความต้องการสภาพแวดล้อมที่สะอาดในอุตสาหกรรมการผลิตขั้นสูง ทำให้อัตราการขยายตัวของอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน

ด้วยเหตุนี้จึงมีพื้นที่จัดแสดงสินค้าเฉพาะทาง สำหรับธุรกิจด้านคลีน เช่น งานวิศวกรรมคลีนรูม และอุปกรณ์ฟอกอากาศ และด้านระบบทำความเย็น เช่น เครื่องทำความเย็นประสิทธิภาพสูงประหยัดพลังงาน และอุปกรณ์สนับสนุนระบบโซ่ความเย็น ซึ่งการเลือกจัดงาน ASEE และ ARHC 2026 ที่ประเทศไทย ซึ่งเป็นศูนย์กลางสำคัญของอาเซียน สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของตลาดไทยและภูมิภาคอาเซียน รวมถึงความมุ่งมั่นด้านการพัฒนาอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แผนพลังงานแห่งชาติของรัฐบาลไทย และความตกลงร่วมกันของอาเซียนในการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด ล้วนเป็นแรงสนับสนุนที่แข็งแกร่งทั้งในเชิงนโยบายและตลาด

อย่างไรก็ตาม ด้วยวัตถุประสงค์การจัดงานที่มุ่งหวังให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ด้านการประหยัดพลังงาน โซลูชันที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมาตรฐานห้องปลอดเชื้อที่ทันสมัย เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมสำคัญของไทยและอาเซียน เช่น กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม, เภสัชกรรม, อิเล็กทรอนิกส์, และอาคารอัจฉริยะ ทั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานตลอด 3 วันของการจัดงานกว่า 18,000 คน จากอย่างน้อย 6 ประเทศสำคัญ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย เวียดนาม อินเดีย อินโดนีเซีย และเยอรมนี ซึ่งจะสร้างผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจที่สูง เพื่อสนับสนุนการเติบโตของห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาด HVACR, คลีนรูม และพลังงานที่มีศักยภาพการเติบโตสูงในอาเซียน

นายสุรนาท พิพัทธกุศลกุล ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติ สํานักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) (TCEB) กล่าวว่า ในฐานะองค์กรหลักของประเทศด้านการส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ TCEB ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับงานแสดงสินค้าที่สนับสนุนยุทธศาสตร์ BCG Economy, นโยบาย Net Zero, และการพัฒนา Future Industries ของประเทศ ซึ่งงาน ASEE และ ARHC 2026 ถือเป็นงานที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์เหล่านี้อย่างโดดเด่น และช่วยเสริมบทบาทของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีสีเขียวและนวัตกรรมพลังงานของภูมิภาคอาเซียน การจัดงานทั้งสองงานไม่เพียงเป็นเวทีแสดงผลงานด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม พลังงานอัจฉริยะ (Smart Energy) ระบบกักเก็บพลังงาน รวมถึงอุตสาหกรรม เครื่องปรับอากาศ ตู้แช่เย็น และเทคโนโลยีควบคุมอากาศภายในอาคาร ให้เติบโตไปสู่ทิศทางที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น TCEB พร้อมให้การสนับสนุนการจัดงานครั้งนี้อย่างเต็มที่ ทั้งในด้านการส่งเสริมผู้แสดงสินค้าและผู้ซื้อจากต่างประเทศ การพัฒนาความร่วมมือกับพันธมิตร และการยกระดับคุณภาพงานแสดงสินค้าให้เป็นแพลตฟอร์มที่สร้างผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจและความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรม

นายรณเวท โพธิ์ทอง ผู้จัดการสมาคมไทยไอโอที (Thai IoT Association) กล่าวว่า สมาคมไทยไอโอที มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการพัฒนาและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Internet of Things (IoT) ในภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจ และโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงาน การใช้พลังงานอย่างชาญฉลาด และการพัฒนาไปสู่ Smart Industry และ Smart City การจัดงาน ASEE และ ARHC 2026 ถือเป็นเวทีสำคัญที่ผสานเทคโนโลยีด้านพลังงานอัจฉริยะ ระบบกักเก็บพลังงาน เทคโนโลยีทำความเย็น และระบบควบคุมอาคาร เข้ากับดิจิทัลแพลตฟอร์มและโซลูชัน IoT ซึ่งจะช่วยให้เกิดการบริหารจัดการพลังงานแบบเรียลไทม์ เพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสนับสนุนเป้าหมายด้านความยั่งยืนและการลดการปล่อยคาร์บอนในระยะยาว จะเป็นจุดเชื่อมโยงสำคัญระหว่างเทคโนโลยีพลังงานและเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งจะช่วยเร่งการเปลี่ยนผ่านของภาคอุตสาหกรรมไทยสู่ยุคดิจิทัลและเศรษฐกิจอัจฉริยะอย่างเป็นรูปธรรม ในนามของสมาคมไทยไอโอที สมาคมฯ พร้อมให้การสนับสนุนและร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อผลักดันการนำเทคโนโลยี IoT ไปใช้อย่างแพร่หลาย สร้างระบบนิเวศดิจิทัลที่แข็งแกร่ง และเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในเวทีระดับภูมิภาคและระดับโลก

นางสาวเสวิตา ถิ่นสันติสุข ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ สมาคมพลังงานหมุนเวียนไทย (RE100) กล่าวว่า สมาคมพลังงานหมุนเวียนไทย (อาร์อี 100) มีพันธกิจในการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดในทุกภาคส่วน ทั้งภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจ อาคาร และหน่วยงานต่างๆ รวมถึงผลักดันให้ประเทศไทยเดินหน้าตามเป้าหมายด้าน BCG Economy, Net Zero, และการเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนตามมาตรฐานสากล เช่น กรอบ RE100 ที่องค์กรชั้นนำทั่วโลกให้ความสำคัญ การจัดงาน ASEE และ ARHC ในปี 2026 นับเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ในการรวบรวมนวัตกรรมล่าสุดจากผู้ผลิตชั้นนำ ทั้งด้านโซลาร์เซลล์ แบตเตอรี่ พลังงานลม ระบบกักเก็บพลังงาน เทคโนโลยีทำความเย็นประสิทธิภาพสูง ตลอดจนโซลูชันอาคารประหยัดพลังงาน ดังนั้น งาน ASEE และ ARHC 2026 จึงเป็นเวทีที่สามารถสร้างความร่วมมือใหม่ ๆ กระตุ้นการลงทุน และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้เข้าถึงเทคโนโลยีระดับโลกที่จะช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านพลังงานอย่างยั่งยืน นอกจากจะเป็นการสนับสนุน Ecosystem อุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียนแล้ว ยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและผู้ผลิตจากทั่วโลกว่าไทยมีความพร้อมในการเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีพลังงานสะอาดของภูมิภาคอาเซียน ทางสมาคมฯ พร้อมให้การสนับสนุนงานทั้งสองที่เกี่ยวเนื่องกับพลังงานอัจฉริยะ เทคโนโลยีกักเก็บพลังงาน ระบบปรับอากาศ ทำความเย็นและห้องปลอดเชื้อ อาคารประหยัดพลังงาน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้เห็นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ความร่วมมือทางธุรกิจ และโครงการที่สามารถนำไปต่อยอดสู่การใช้งานจริง เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับประเทศไทย

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon