
มิติหุ้น – แอล พี พี คว้างานบริหาร 11 โครงการคอมมูนิตี้มอลล์ ตอกย้ำศักยภาพในการบริหารอาคารเชิงพาณิชย์ โดย ALLY Reit กองทรัสต์ผู้ลงทุนและผู้บริหารจัดการโครงการอสังหาริมทรัพย์ มอบความไว้วางใจให้ให้ดูแลบริหารจัดการอาคารแบบครบวงจร ครอบคลุมระบบวิศวกรรมอาคาร ระบบประกอบอาคาร และระบบสาธารณูปโภคของโครงการ
นายสุรวุฒิ สุขเจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด หรือ LPP เปิดเผยว่า บริษัทได้รับความไว้วางใจจาก ALLY Reit นักลงทุนและผู้ดำเนินการด้านอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอมมูนิตี้มอลล์และโครงการมิกซ์ยูส ด้วยแนวทางการลงทุนผ่านกองทรัสต์ มอบหมายให้ LPP เป็นผู้ดูแลบริหารจัดการโครงการครบวงจร (Integrated Facility Management : IFM) และบริษัทในเครือ คือ บริษัท รักษาความปลอดภัย แอลเอสเอส โซลูชั่นส์ จำกัด (LSS) ผู้ให้บริการดูแลรักษาความปลอดภัยโดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพร้อมระบบเทคโนโลยี สนับสนุนด้วยศูนย์ปฏิบัติการเหตุฉุกเฉิน (Emergency Operation Center : EOC) และพร้อม IOT เทคโนโลยีที่ประสานการทำงานร่วมกันในจุดเสี่ยงที่สำคัญ หรือจุดวิกฤติ ที่ต้องการเฝ้าระวังแบบ 24/7
สำหรับงานบริหารจัดการโครงการครบวงจร (Integrated Facility Management : IFM) ครอบคลุม 3 ระบบงานสำคัญ ได้แก่ ระบบวิศวกรรมอาคาร (Building Engineering Services) ระบบประกอบอาคาร (Building Systems) ที่ครอบคลุม Mechanical, Electrical & Plumping และระบบสาธารณูปโภค ที่จะทำให้ผู้ใช้อาคาร ผู้เช่า และลูกค้าของศูนย์การค้ามีความสะดวกสบาย โดยโครงการภายใต้การลงทุนของ Ally Reit ที่ LPP ได้รับความไว้วางใจให้เข้าบริหารจัดการคือ คอมมูนิตี้มอลล์ชื่อดังและอาคารสำนักงาน รวม 11 โครงการ ประกอบด้วย
1.ศูนย์การค้า เดอะคริสตัล เอกมัย-รามอินทรา (TC)
2.ศูนย์การค้า เพลินนารี่ มอลล์ วัชรพล (PLN)
3.ศูนย์การค้า เดอะ ซีน ทาวน์ อิน ทาวน์ (TS)
4.ศูนย์การค้า สัมมากร เพลส ราชพฤกษ์ (SRP)
5.ศูนย์การค้า อมอรินี่ รามอินทรา (AMR)
6.ศูนย์การค้า แอมพาร์ค จุฬา (IMP)
7.ศูนย์การค้า สัมมากร เพลส รามคำแหง (SRM)
8.ศูนย์การค้า แฮปปี้ อเวนิว ดอนเมือง (HPA)
9.ศูนย์การค้า เดอะ คริสตัล ราชพฤกษ์ (TCR)
10.โครงการของบริษัท K.E. 111 จำกัด อาคารสำนักงานที่มีการเปิดให้เช่าพื้นที่สำนักงาน
11.โครงการคอมมูนิตี้มอลล์ ของบริษัท วิลเลจ ประชาอุทิศ จำกัด (VLPU)
นายสุรวุฒิ กล่าวต่อว่า สัญญาการเข้าบริหารจัดการอาคาร (Integrated Facility Management) ระหว่าง Ally Reit และ LPP มีกำหนดระยะเวลา 31 เดือน มูลค่ารวมกว่า 30 ล้านบาท โดยจะสิ้นสุดในช่วงเดือนธันวาคม 2570 ครอบคลุม 3 ระบบงานสำคัญ ได้แก่ ระบบวิศวกรรมอาคาร (Building Engineering Services) ระบบประกอบอาคาร (Building Systems) ที่ครอบคลุม Mechanical, Electrical & Plumping และระบบสาธารณูปโภค ที่จะทำให้ผู้ใช้อาคาร ผู้เช่า และลูกค้าของศูนย์การค้า มีความสะดวก โดย LPP มุ่งหวังให้ทุกอาคารที่บริหารจัดการมีความปลอดภัย ระบบต่างๆ มีเสถียรภาพและมีความคุ้มค่าในการใช้งานได้ในระยะยาว
LPP มีประสบการณ์ในงานบริหารโครงการรูปแบบต่างๆ มากว่า 33 ปี ครอบคลุม โครงการพักอาศัย อาคารสำนักงาน โรงแรม ห้างสรรพสินค้า และศูนย์ธุรกิจขนาดใหญ่ มีความพร้อมทั้งด้านบุคคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ และการสนับสนุนด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เน้นการทำงานแบบไร้รอยต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมการให้บริการที่รวดเร็ว แม่นยำ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม
“ความไว้วางใจที่ Ally Reit มอบให้ในครั้งนี้ จะเป็นแรงผลักดันให้ LPP พัฒนางานบริการและคุณภาพงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทุกโครงการมีความพร้อมครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านเทคนิค ความสะดวก ความปลอดภัยของอาคารและความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งนอกจาก 11 โครงการที่ได้รับความไว้วางใจนี้ LPP ยังมีเป้าหมายที่จะขยายงานบริการด้าน Integrated facility Management อย่างต่อเนื่องในปี 2569” นายสุรวุฒิกล่าวในที่สุด
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon































