SCB เนื้อหอมเข้าตากองทุน บุ๊กกำไรพิเศษ-P/BVต่ำ (12/09/62)

332

มิติหุ้น-SCB ราษีจับกองทุนใหญ่ในประเทศเข้า“สะสมหุ้น” หลังมีความเสี่ยงต่ำ ปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง แถมได้รับอานิสงส์รัฐเดินหน้าบิ๊กโปรเจ็กต์ หนุนความต้องการสินเชื่อทะลัก ลุยบุ๊กกำไรพิเศษขายหุ้น SCB Life -กินรวบ คอมมิชชั่นจากการขายประกันให้ FWD ล่าสุดยังมีค่า P/BV ต่ำเพียง 1.01 เท่า ชี้เป้า 164 บาท อัพไซด์ 34%

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ความเคลื่อนไหวของหุ้น “กลุ่มธนาคารพาณิชย์” โดย “นักวิเคราะห์หลักทรัพย์แห่งหนึ่ง”  เผยว่า ขณะนี้มีกองทุนขนาดใหญ่ในประเทศเริ่มทยอย “สะสม” หุ้น “กลุ่มธนาคารพาณิชย์” มากขึ้น เพราะต่างมองว่าเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำ ปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง รวมถึงกำลังได้รับอานิสงส์กรณีที่รัฐบาลเร่งขับเคลื่อนงานโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ความต้องการสินเชื่อเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง และต่อเนื่องไปในปี 63

อีกทั้ง “กลุ่มธนาคารพาณิชย์” ยังมีค่า P/BV ต่ำเพียง 0.92 เท่า เมื่อกับกลุ่มอื่นๆ อาทิ กลุ่มสื่อสารที่ 3.02 เท่า , กลุ่มรับเหมา 1.41 เท่า , กลุ่มอาหาร 2.20 เท่า , กลุ่มการแพทย์ 4.39 เท่า , กลุ่มพลังงาน 1.79 เท่า , กลุ่มมีเดีย 3.13 เท่า , กลุ่มเดินเรือ 3.53 เท่า  และ กลุ่มอสังหา 1.53 เท่า  เป็นต้น

SCB น่าสะสมเข้าพอร์ต

ทั้งนี้หากเลือกลงทุนในหุ้นรายตัว กลุ่มกองทุนขนาดใหญ่จะเลือกลงทุนในหุ้นธนาคารขนาดใหญ่ อย่าง SCB เพราะมีค่า P/BV ต่ำเพียง 1.01 เท่า ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)มองราคาเป้าหมาย 164 บาท อัพไซด์ 34%

ด้าน “บล.ทรีนีตี้” เผยว่า ฝ่ายวิจัยแนะนำ “เพิ่มน้ำหนัก”เข้าลงทุนในหุ้น SCB โดยทั้งปี 62 คาดกำไรจะพุ่งแรงจากกำไรพิเศษหลังหักภาษีจากการขายหุ้น SCB Life ราว 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าธนาคารจะกันเงินส่วนหนึ่งไว้เป็นสำรองพิเศษเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับงบการเงิน และรองรับมาตรฐานบัญชี TFRS 9

อย่างไรก็ตามสำรองพิเศษดังกล่าวอาจไม่ได้มีจำนวนมาก เนื่องจากสัดส่วน NPL Coverage Ratio ของธนาคารปัจจุบันที่สูงกว่า 150% ถือว่าเป็นระดับที่สูงแล้ว ทำให้กำไรส่วนใหญ่จะส่งผลบวกต่อกำไรสุทธิในปี 62 ที่จากเดิมฝ่ายวิจัย

คาดไว้ที่ราว 4.25 หมื่นล้านบาท โดยฝ่ายวิจัยอาจมีการปรับประมาณการกำไรขึ้นอีกราว 70-90% จากประมาณการปัจจุบัน

บุ๊ก SCB Life ครึ่งหลังแรง

ทั้งนี้ราคาเป้าหมายเดิมสำหรับปี 62 ที่ 148 บาท อิง PBV 1.25 เท่า ซึ่งยังไม่ได้รวมประเด็นดังกล่าวเข้ามาในประมาณการ โดยเบื้องต้นภายหลังการรับรู้กำไรจากการขายหุ้นหลังหักภาษีและสำรองพิเศษ ประเมินว่าจะมีส่วนเพิ่มของ Book Value ของ SCB ราว 9.5 บาท คิดเป็นส่วนเพิ่มต่อราคาเป้าหมายราว 12 บาท ซึ่งจะได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 160 บาท จึงแนะนำ “ซื้อ”

ขณะที่ “บล.โนมูระ พัฒนสิน”  เผยว่า ให้ SCB เป็น Top pick ราคาเป้าหมายปี 63 ที่ 164 บาท จากกลยุทธ์การเติบโตสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันทำให้สินเชื่อและ yield พอร์ตดีขึ้น รวมถึงเริ่มเห็นประโยชน์จาก transformation และการคุม cost ที่ดีของ SCB ทำให้คาดการเพิ่มของค่าใช้จ่ายจะเพิ่มชะลอลง ดังนั้นจึงคาดกำไรที่จะกลับมาฟื้นตัวในครึ่งปีหลังของปี 62  และกำไรสุทธิปี 63 จะเติบโตดีขึ้นกว่า 12% จากที่เติบโตต่ำเพียง 5% ในปี62  นอกจากนี้ยังคาดบันทึกกำไรพิเศษจากการขาย SCB Life ในช่วงครึ่งหลังปีของปี 62 เป็นโอกาสนำกำไรพิเศษมาจ่ายปันผลเพิ่มอีก 0-9.3 บาท/หุ้น จากคาดการณ์ปกติ 5.5 บาท/หุ้น

 สินเชื่อเติบโตไม่หยุด

บล.เอเชีย เวลท์ เผยว่า ปี 63 ประเมินกำไรสุทธิไว้ที่ 4.8 หมื่นล้านบาท ปรับลดลงจากประมาณการเดิม 1% จากการปรับลดการเติบโตของสินเชื่อเหลือ 6% จากเดิม 7% แต่กำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นเพราะได้รับการชดเชยจากรายได้ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้น จากการเริ่มรับรู้รายได้ค่าคอมมิชชั่นจากการขายประกันให้ FWD คาดจะมีรายได้  Access Fee ใกล้เคียงกับ ที่ FWD ให้กับ TMB ราว 1.5 พันล้านบาทต่อปี

สำหรับการขาย SCBLIFE คาดกำไรจากการขาย บริษัทจะใช้ในการดำเนินงานปกติ คาดบริษัทจะจ่ายเงินปันผลในระดับที่สูงขึ้นที่ 6 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนที่ 4.2% แนะนำ “ซื้อ” พร้อมปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 63 ที่ 159 บาท อิงค่า P/BV ที่ 1.25 เท่า ในปี 2563

www.mitihoon.com