 ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น หรือ UNIQ ว่า ในปี 2563 UNIQ จะมีมูลค่างานในมือพุ่งแตะระดับ 2.58 หมื่นล้านบาท หลัง
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น หรือ UNIQ ว่า ในปี 2563 UNIQ จะมีมูลค่างานในมือพุ่งแตะระดับ 2.58 หมื่นล้านบาท หลัง
ได้รับการอนุมัติจากครม. ในโครงการ รถไฟไทย-จีนสัญญาที่ 4-6 (ช่วงพระแก้ว-สระบุรี) วงเงิน 9.4 พันล้านบาท โดยจะลงนามเซ็นสัญญาหลัง EIA ส่วนเพิ่มเติมผ่านแล้ว โดยหลังเซ็นรับงานดังกล่าว จะทำให้ UNIQ มีงานในมือเพิ่มขึ้นจาก 1.6 หมื่นล้านบาท เป็น 2.58 หมื่นล้านบาท
สำหรับงานในปี 2563 ทาง UNIQ คาดหวังรับงานใหม่จากโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ เช่น งานรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ส่วนต่อขยาย) งานรถไฟทางคู่เฟส 2 และงานสนามบินสุวรรณภูมิ รวมถึงงานย้ายสายไฟลงใต้ดินของ กฟน. จะเป็นโอกาสต่อรายได้ในปี 2564
งานประมูลช้ารายได้ไม่เข้าเป้าปรับประมาณการ
สำหรับผลประกอบการในไตรมาส4/62 ในเบื้องต้นฝ่ายวิจัยคาดทำได้ใกล้เคียงกับไตรมาส3/62 เนื่องจากการรับรู้รายได้ยังคงมาจากงานเดิม ทั้งนี้ผลกระทบจากการรับรู้รายได้ที่ทำได้น้อย เนื่องจากการรับรู้รายได้ยังคงมาจากงานเก่า ส่วนงานใหม่ที่ได้รับคาดจะเริ่มรับรู้รายได้ในปี 2563 ประกอบกับงานประมูลภาครัฐมีการอนุมัติโครงการใหญ่ที่ล่าช้า ฝ่ายวิจัยจึงปรับประมาณการกำไรในปี 2563 และ 2562 ลดลง 13% และ 28% ตามลำดับ
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยได้คงคำแนะนำ “เก็งกำไร” โดยปรับใช้ราคาเหมาะสมปี 2563 ที่ 11.20. บาท (อ้างอิง PE-1SD ที่ 16 เท่า น้อยกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ 20 เท่า) นอกจากนี้มองว่า ราคาหุ้นได้ตอบรับปัจจัยลบไปพอควร ขณะเดียวกันในปี 2563 ยังมีงานประมูลภาครัฐอีกหลายโครงการที่จะช่วยผลักดันงานในมือให้มีความต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม UNIQ มีจุดเด่นนอกจากการเป็นผู้รับเหมาหลักแล้ว ยังเป็นผู้รับเหมาช่วงต่อที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้รับเหมารายใหญ่ทั้ง CK,STEC รวมถึงการรักษาระดับความสามารถในการทำกำไรได้ดีต่อเนื่องอยู่ที่ระดับ 15-20% โดยเฉลี่ย โดยมีประเด็นติดตามคือการแข่งขันในตลาดที่ค่อนข้างสูง
www.mitihoon.com
 
                






















