CCET ออเดอร์ล้นQ3พลิกบวก กำไรสะสมหมื่นล.-ต่ำบุ๊ก3.40บ. (17/09/63)

1122

มิติหุ้น-CCET ดาวเด่น “กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์” จับตาไตรมาส 3/63 พลิกกำไร เหตุได้รับอานิสงส์การผลิตทั่วโลกฟื้นตัว แถมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหนุนออเดอร์ ‘ผลิตภัณฑ์โทรคมนาคม’ทะลัก ล่าสุดเดือน ส.ค.ยอดขายพุ่งเฉียด 4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน CCET เป็นหุ้น laggard พื้นฐานแกร่ง กำไรสะสม 1.08 หมื่นล้านบาท ราคาต่ำบุ๊กแวลู่ที่ 3.40 บาท  

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) หรือ CCET ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์อีเล็คโทรนิคส์ในรูปแบบของ Electronics Manufacturing Services (EMS) โดยมีกลุ่มลูกค้าหลัก 2 ประเภทคือ อุปกรณ์ประกอบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์โทรคมนาคม โดย “บล.ทรีนีตี้” เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้น “กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์” เพราะคาดว่าผลประกอบการช่วงครึ่งหลังปี 63 จะเติบโตแข็งแกร่งกว่าช่วงครึ่งปีแรก เพราะจะได้ประโยชน์จากภาคการผลิตทั่วโลกฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ

หุ้นพื้นฐานแกร่ง- laggard

“นักวิเคราะห์หลักทรัพย์” เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยแนะนำ “ซื้อ” CCET เพราะเป็นหุ้น laggard และมีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง โดยคาดว่าผลงานไตรมาส 3/63 จะพลิกทำกำไรสุทธิ เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/63 ขาดทุนสุทธิที่ 69.59 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณออเดอร์ผลิตภัณฑ์โทรคมนาคมและอุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์เข้ามามากขึ้น จากการผลิตทั่วโลกเริ่มฟื้นตัวชัดเจน และจะเร่งตัวมากขึ้นในช่วงไตรมาส 4/63 ล่าสุด CCET มีกำไรสะสมสูงถึง 1.08 หมื่นล้านบาท ซื้อขาย P/BV ต่ำ 0.54 เท่า ราคาหุ้นยังต่ำบุ๊กแวลู่ที่ 3.41 บาท ดังนั้นจึงแนะนำ “ซื้อ”

ออเดอร์ทะลัก-หนุนQ3พลิกบวก

ด้าน “แหล่งข่าววงการอุตสหกรรม” เปิดเผยว่า แนวโน้มผลงานไตรมาส 3/63 จะเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากการ COVID-19 เริ่มคลี่คลายลงในบางประเทศ ทำให้เริ่มเห็นลูกค้าในต่างประเทศกลับมาสั่งออเดอร์มากขึ้น ล่าสุดยอดขายเดือนส.ค.63 อยู่ที่ 305,789 พันเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 3.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 4.3% จากเดือนก.ค.63 ที่มียอดขาย 293,228 พันเหรียญสหรัฐ

โดยลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทจะเป็นลูกค้าประจำ ที่ได้ทยอยสั่งออเดอร์อุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์ อาทิ ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ และ ผลิตภัณฑ์โทรคมนาคม อีกทั้งยังมีกลุ่มลูกค้ารายใหม่ที่เพิ่งเซ็นสัญญาด้วย ได้แก่ ลูกค้าทวีปยุโรป, ทวีปอเมริกา, ทวีปอเมริกาใต้, ภูมิภาคเอเชีย, ภูมิภาคออสเตรเลีย และภูมิภาคแอฟริกา ทำให้ปัจจุบันมีลูกค้ามากกว่า 150 ราย ซึ่งสัดส่วนยอดขายต่างประเทศคิดเป็น 97.75% ของยอดขายรวม

ความต้องการทะลักรับ5G

ทั้งนี้เชื่อมั่นว่า หากสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ อุตสาหกรรม EMS จะเติบโตมากขึ้น จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในอุปกรณ์เครือข่าย, เซิร์ฟเวอร์, สไตล์โมเดิร์น, โน๊ตบุ๊ค, คอมพิวเตอร์, เราต์เตอร์, กล่องแปลงสัญญาณเครื่องพิมพ์และโครงสร้างพื้นฐาน 5G จะยังคงเป็นตัวเร่งการเติบโตของอุตสาหกรรม EMS ดังนั้นมั่นใจธุรกิจของ CCET จะเติบโตอีกมากในอนาคต

www.mitihoon.com