Fund flow ยังไหลเข้า แต่คงเริ่มชะลอบ้างช่วงปลายปี

239

              ภาพรวมดัชนี SET index สัปดาห์ที่ผ่านมา ยังได้แรงหนุนจากปัจจัยต่างประเทศ อาทิ i) ความคืบหน้าวัคซีนโควิด-19 โดยล่าสุดมีการรายงานผลการทดสอบขั้นสุดท้ายแล้ว 3 บริษัท ได้แก่ บริษัทไฟเซอร์ บริษัทโมเดอร์นา และ บริษัทแอสตราเซเนกา (อย่างไรก็ดีสำหรับวัคซีนของบริษัทแอสตราเซเนกา ที่คาดว่าจะมีราคาถูกที่สุดอาจต้องทำการทดสอบเพิ่มเติม แต่ยังอยู่ในกรอบเวลาที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้) ii) การเปลี่ยนถ่ายอำนาจบริหารของผู้นำสหรัฐฯราบรื่นดี ทำให้คาดหวังถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายใต้ผู้นำใหม่ นายโจ ไบเดน เป็นต้น

เม็ดเงิน Fund flow ยังไหลเข้าตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดนับตั้งแต่วันแรกที่เม็ดเงิน Fund flow ไหลเข้าไทยอย่างมีนัยสำคัญ ตอนนี้ยอดสะสมสุทธิรวมสูงถึง  1,338.9 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ (นับจากวันที่ 10 พ.ย. ที่นักลงทุนต่างชาติเป็นผู้ซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยรวม 625.5 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในวันเดียว) ด้วยการไหลเข้าของเม็ดเงิน Fund flow ทำให้ส่วนชดเชยความเสี่ยง (Equity risk premium) ของตลาดหุ้นเกิดใหม่รวมถึงประเทศไทยลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และทำให้ Valuation ของตลาดหุ้นไทยพรีเมี่ยมขึ้นมาในระยะสั้น ทั้งนี้หากพิจารณา Forward PE บนประมาณการฯปี 2564 จะเห็นว่าลดลงเหลือเพียง 18.3 เท่า จากระดับ เกือบ 27 เท่า หากพิจารณาบนประมาณการฯปี 2563 (Consensus คาด EPS growth +47% YoY) ขณะที่อัตราดอกเบี้ย (อิงพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 – 10 ปี) ยังอยู่ในระดับที่ต่ำเช่นเคย ทำให้เมื่อเราพิจารณาไปถึงการฟื้นตัวของกำไรบริษัทจดทะเบียนในปีหน้าภายหลังการมีวัคซีนโควิด-19 แล้ว จะเห็นว่า Valuation ของ SET index ยังไม่แพงมากเกินไปนัก (Yield gap +4.6% หากอิง Forward PE ปีหน้า)

อย่างไรก็ดีการแรลลี่ขึ้นมามากของดัชนี SET index ในระยะสั้นๆ อาจทำให้เกิดภาวะ Overbought หรือ ซื้อมากเกินไป  นอกจากนี้การเริ่มเข้าสู่ช่วงเดือน ธ.ค.ที่โดยปกติแล้วเม็ดเงิน Fund flow จากต่างชาติจะเริ่มชะลอตัวลงบ้าง ทำให้เราประเมินว่าระยะสั้นมีโอกาสที่ดัชนี SET index จะเริ่ม Sideway ออกข้างก่อน จึงประเมินกรอบดัชนี SET index สัปดาห์นี้ แนวรับ 1410, 1400 จุด / แนวต้าน 1450, 1480 จุด ตามลำดับ โดยประเมินมีโอกาสที่นักลงทุนจะเริ่มสลับกลุ่มเล่น จากกลุ่ม ธนาคารพาณิชย์และพลังงาน มายังหุ้น Laggard อาทิ กลุ่มนิคมฯ, กลุ่มโรงไฟฟ้า เป็นต้น        

โดยสุโชติ ถิรวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย)

www.mitihoon.com