 ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น(SC) โดยบทวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุว่า คาด SC จะได้รับประโยชน์เกณฑ์คลาย LTV ล่าสุด ธปท.ได้คลายเกณฑ์ LTV ชั่วคราวเป็น 100% ตั้งแต่ 20 ต.ค.64-31ธ.ค.65 จากเดิมที่บ้านราคามากกว่าหรือเท่ากับ 10 ลบ. ต้องวางดาวน์ขั้นต่ำ สำหรับสัญญาที่ 1-10% สัญญาที่ 2-20% และสัญญาที่ 3-30% ยังผลให้ผู้ซื้อบ้านมีภาระในการวางดาวน์ลดน้อยลงไปพอควร ทั้งนี้บริษัทมีบ้านแนวราบราคามากกว่า 10 ลบ.ถึง 65% ราคา 5-10 ลบ. 23% และน้อยกว่าหรือเท่ากับ 5 ล้านบาท 12% ก็คาดว่าจะทำให้บริษัทได้รับประโยชน์ในการที่เกณฑ์ใหม่จะกระตุ้นให้ยอดขายและยอดโอนดีขึ้น ทั้งนี้ ณ สิ้น 2Q64 มีโครงการบ้านแนวราบ 45 โครงการ 19.9 พันลบ. และคอนโด 8โครงการ 11.7 พันลบ.
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น(SC) โดยบทวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุว่า คาด SC จะได้รับประโยชน์เกณฑ์คลาย LTV ล่าสุด ธปท.ได้คลายเกณฑ์ LTV ชั่วคราวเป็น 100% ตั้งแต่ 20 ต.ค.64-31ธ.ค.65 จากเดิมที่บ้านราคามากกว่าหรือเท่ากับ 10 ลบ. ต้องวางดาวน์ขั้นต่ำ สำหรับสัญญาที่ 1-10% สัญญาที่ 2-20% และสัญญาที่ 3-30% ยังผลให้ผู้ซื้อบ้านมีภาระในการวางดาวน์ลดน้อยลงไปพอควร ทั้งนี้บริษัทมีบ้านแนวราบราคามากกว่า 10 ลบ.ถึง 65% ราคา 5-10 ลบ. 23% และน้อยกว่าหรือเท่ากับ 5 ล้านบาท 12% ก็คาดว่าจะทำให้บริษัทได้รับประโยชน์ในการที่เกณฑ์ใหม่จะกระตุ้นให้ยอดขายและยอดโอนดีขึ้น ทั้งนี้ ณ สิ้น 2Q64 มีโครงการบ้านแนวราบ 45 โครงการ 19.9 พันลบ. และคอนโด 8โครงการ 11.7 พันลบ.
คาดกำไร 3Q64 ไม่สดใสเป็น 538 ลบ.(-21% y-o-y,+3% q-o-q) เพราะในงวด 3Q64 ถูกกระทบจากล็อกดาวน์ มีการให้หยุดแคมป์คนงาน 1 เดือน และฐานปีก่อนคือ 3Q63 หรือเทียบ y-o-y เป็นกำไรรายไตรมาสที่สูงสุดในรอบปี 63 ถึง684 ลบ.ซึ่งมีการโอนบ้านแนวราบและคอนโดได้เป็นจำนวนมาก สำหรับคาดการณ์รายได้จากการโอน 3Q64 เป็น 4.55 พันลบ. (-17% y-o-y,0% q-o-q)อย่างไรก็ตามคาดว่ากำไร 3Q64 เพิ่มเล็กน้อย 3% q-o-q เนื่องจากมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าเป็น 30.0% เทียบ q-o-q ที่ 29.0% ทั้งนี้มีการโอนบ้านแนวราบในสัดส่วนที่มากกว่าคอนโด ขณะที่อัตรากำไรบ้านแนวราบจะสูงกว่าคอนโด แม้ว่ามีค่าใช้จ่ายทางการตลาดสูงขึ้นเทียบ q-o-q สอดคล้องกับการเปิดขายโครงการใหม่มากขึ้นใน 3Q64
คาดกำไร 4Q64 จะเร่งตัวได้ดีขึ้น คาดกำไร 9M64 เป็น 1,475 ลบ. เป็นสัดส่วน 70% จากประมาณการทั้งปี64 ที่ 2,122 ลบ. แต่ 4Q64 จะเร่งตัวขึ้นที่สัดส่วน 30% หรือ 647 ลบ. จากประมาณการทั้งปี64 ผลพวงจากการมียอดขายรอโอน (Backlog) ที่สูง ณ สิ้น 2Q64 เป็น 8.6 พันลบ. แบ่งเป็นบ้านแนวราบ 4.0 พันลบ. และคอนโด4.6 พันลบ. ทั้งนี้คาดว่า Backlog ณ สิ้น 3Q64 เป็น 8.8 พันลบ. สืบเนื่องจากทำยอดขาย (Presales) 3Q64 ได้เป็น 4.8 พันลบ. แต่มีการโอนกรรมสิทธ์ใน 3Q64 ออกไปราว 4.6 พันลบ.
คาดว่า 4Q64 มีตัวเร่งคือ การเปิดเมืองและคลาย LTV ทางศบค.ทยอยเปิดเมืองมาตั้งแต่ ก.ย.64 และ ต.ค.64 และตั้งแต่ 1 พ.ย.64 จะมีเริ่มมีการเปิดเมืองครั้งใหญ่คือ ยกเลิกเคอร์ฟิวส์ 17 จังหวัด เปิดรับ 46 ประเทศความเสี่ยงต่ำเข้าไทยแม้วัตถุประสงค์หลักคือ การท่องเที่ยว แต่ก็พลอยทำให้ธุรกิจที่อยู่อาศัยได้รับประโยชน์ไปด้วย ในเรื่องกิจกรรมทางเศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะปกติมากขึ้น และมีโอกาสที่จะฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ขณะที่คอนโดของบริษัทก็รอต่างชาติมาโอนอยู่ เช่น 28 ชิดลม มีมูลค่าราว 200 ล้านบาทที่ค้างอยู่ อีกทั้งเมื่อธปท.ได้คลายเกณฑ์ LTV ก็เสมือนเพิ่มกำลังซื้อประชาชน ก็จะทำให้บริษัทสามารถขายและโอนกรรมสิทธิ์ซึ่งเป็นการระบายที่อยู่อาศัยที่เป็นสต็อกอยู่ได้มากขึ้น
คงคำแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาพื้นฐานที่ 3.80 บาท ซึ่งประเมินด้วย P/E ปี 64 ที่ 7.5 เท่า คาดการณ์กำไรหลักปี 64/65 อยู่ในเกณฑ์ดี +10%/+17% y-o-y ซึ่งปี 65 จะมีถึง 3 คอนโดพร้อมโอน ถือว่าราคาหุ้นปรับขึ้นมาดี YTD ปรับขึ้นมาแล้ว 26%ราคาหุ้นจึงมีส่วนเพิ่มเทียบกับราคาพื้นฐานได้เพียง 9% แต่หุ้นก็ยังซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าบัญชีมาก P/BV ปี 64 ที่ 0.73เท่าอีกทั้งเป็นหุ้นที่จ่ายเงินปันผลได้อย่างน่าประทับใจมาตลอด คาดว่าอัตราผลตอบแทนปี 64 และ 65 เป็น 5.8%/6.8%ตามลำดับ ด้านฐานะการเงินก็อยู่ในเกณฑ์น่าพอใจ โดยคาดว่าอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนปลายปีนี้เป็น 1.0 เท่า
🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้
 
                






















