“SA ปักธงรายได้ปี 65 แตะ 4,900 ลบ. ลุยเปิด 6 โครงการใหม่

31

มิติหุ้น   –  นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) หรือ SA  ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ภายใต้แนวคิด ‘Asset of Life สร้างกำไรให้กับทุกการใช้ชีวิต’ เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2565 บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตอยู่ที่ 4,500 – 4,900 ล้านบาทจากปีก่อน โดยมีรายได้หลักจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งปัจจุบันมีโครงการที่กำลังดำเนินงานอยู่  จำนวน 4 โครงการ มูลค่า 23,976.3 ล้านบาท เป็นอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายมูลค่า 19,142.53 ล้านบาท และในปีนี้จะมีโครงการที่แล้วเสร็จคือ Landmark @ MRTA Station

ขณะที่ปัจจุบันมีโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ จำนวน 8 โครงการ มูลค่า 18,938.92 ล้านบาท โดยเป็นอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายมูลค่า 15,432 ล้านบาท ซึ่งมี Inventory ที่พร้อมขายเพื่อรับรู้รายได้เดือนละ 200-300 ล้านบาท อีก 5,059.6 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ มีแผนจะเปิดโครงการใหม่ในปี 2565 จำนวน 6 โครงการ มูลค่ารวม 11,621.9 ล้านบาท ได้แก่ Landmark @ Kasetsart TSH Station , Monsane Exclusive Villa Ratchapruek-Pinklao , Siamese Kin Ramintra Phase 2 , Siamese Home @ Phaholyothin – Rangsit , Siamese Talingchan และ Siamese Luxury Home @ Ratchapruek – 345

“ปัจจุบันบริษัทมี Backlog มูลค่ารวม 4,324.2 ล้านบาท โดยวางแผนจะรับรู้รายได้ในช่วงปี 2565-2569  และโครงการที่แล้วเสร็จจะทำการขายและรับรู้รายได้ประมาณ 200-300 ล้านบาทต่อเดือน”

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวอีกว่าแผนธุรกิจในระยะยาว 5 ปี (2565-2569) บริษัทฯได้ตั้งเป้าหมายรายได้หลักมากกว่า 10,000 ล้านบาท โดยมีปัจจัยจากปี 2565 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ ซึ่งเป็นโครงการแนวราบจำนวน 4 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 7,500 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถทยอยรับรู้รายได้ภายในปลายปีนี้ ถึงปี 2567 นี้ และเป็นไปตามกลยุทธ์ที่บริษัทได้วางแผนปรับสัดส่วนการพัฒนาโครงการ โดยการเพิ่มรายได้ของโครงการแนวราบให้มีมูลค่าสัดส่วน 50% ของรายได้รวมภายในระยะเวลา 3 ปี (2567) โดยคาดการณ์ว่าภายในปี 2566 บริษัทจะมีรายได้จากโครงการแนวราบประมาณปีละ 3,000-4,000 ล้านบาท

บริษัทฯ ได้กำหนดกลยุทธ์ ในการดำเนินงานเพื่อพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยการจัดหาเงินลงทุนให้สอดคล้องกับการวางแผนการพัฒนาโครงการ อาทิเช่น Green Finance หรือ Green Bond  ซึ่งเป็นการลงทุนรูปแบบใหม่ สามารถลดต้นทุนทางด้านการเงินของบริษัทได้ มุ่งพัฒนาโครงการในทำเลที่มีศักยภาพ เช่น ถนนสุขุมวิท โดยมีการเก็บอสังหาริมทรัพย์นี้ไว้ และทำการบริหารจัดการ ทำให้เปลี่ยนการรับรู้รายได้จากการขายเป็นการรับรู้รายได้อย่างสม่ำเสมอ (Recurring Income) และการพัฒนาธุรกิจใหม่ เพื่อขยายธุรกิจ สู่ธุรกิจ New S-Curve ซึ่งจะเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตในอนาคต

“บริษัทฯ มุ่งมั่นสร้างการเติบโตแข็งแกร่ง โดยมีการวางแผนพัฒนาโครงการเพิ่มเติมอยู่ตลอดเพื่อสร้างการรับรู้รายได้ของโครงการใหม่ๆ พร้อมกันนี้ ยังมองหาโอกาสสร้าง S-Curve จากธุรกิจใหม่ๆ โดยการขยายไลน์ธุรกิจออกไป แต่ยังคงเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจของบริษัทให้สอดคล้องกับหลัก Asset Play สร้างมูลค่าจากสินทรัพย์ที่มีอยู่ โดยแตกแขนงออกเป็น 6 ธุรกิจประกอบด้วย ธุรกิจด้านพลังงานสีเขียว ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการบริการ ธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีของการพักอาศัย ธุรกิจเกี่ยวกับการบริการผู้สูงอายุ ธุรกิจเกี่ยวกับ Spa & Wellness และธุรกิจการเงินและการลงทุนอีกด้วย ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานของ SA ให้สามารถเติบโตได้อย่างโดดเด่น มั่นคงและยั่งยืนต่อไป” นายขจรศิษฐ์ กล่าวในที่สุด

🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้

https://lin.ee/cXAf0Dp