มิติหุ้น – คอนเซปต์ เชื่อมประสบการณ์ใหม่ ระหว่างแฟนคลับและศิลปินให้ใกล้ชิดกันมากขึ้นในรูปแบบ Fun to earn
FANDOM มาจากคำว่า “Fan” และ “Kingdom” คำว่า FANDOM จึงหมายถึง อาณาจักรหรือกลุ่มของคนที่มีความรู้สึกรัก ชื่นชอบ หลงใหล คลั่งไคล้ จงรักภักดีในบุคคลเดียวกัน และสะท้อนถึงรูปแบบวัฒนธรรมย่อยภายในอาณาจักรนั้นถึงอารมณ์ร่วม กิจกรรมร่วม และมิตรภาพระหว่างกันของคนภายในกลุ่ม
กลุ่มแฟนคลับ หรือ FANDOM (แฟนด้อม) จะคอยสนับสนุนผลงานศิลปิน ดารา นักร้องคนโปรด บุคคลที่ชอบ เป็นพลังที่มาแรง เป็นที่น่าสนใจในแวดวงการตลาด ปัจจุบันขยายวงกว้างมากขึ้น มีการแตกย่อยหลากหลายประเภทตามวัฒนธรรมกลุ่มย่อย เช่น แฟนด้อม E-Sports, แฟนด้อมสายวาย, แฟนด้อมกลุ่มกีฬา, แฟนด้อมนักวาดภาพ ซึ่งแต่ละกลุ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นหลายเท่าตัว แต่กลุ่มเหล่านี้ยังขาดพื้นที่ที่เป็นศูนย์กลางในการเชื่อมต่อกันระหว่างกลุ่มแฟนด้อมและศิลปิน ในการทำความรู้จักระหว่างกัน รวมทั้งการแบ่งปันช่วงเวลา ข่าวสาร และกิจกรรมต่างๆ
ซึ่งตลาดแฟนคลับในประเทศไทยมีขนาดใหญ่มาก ปัจจุบันถือเป็นตลาดหลักของอุตสาหกรรม
บันเทิงเกาหลี มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 6 ของโลก มูลค่าตลาดรวมกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งนอกจากตลาด K-POP แล้ว ประเทศไทยยังเป็นตลาด J-POP, Gamer, Sport, Influencer และอุตสาหกรรมบันเทิงอีกหลายด้าน
NFT (Non-Fungible Token) คือ ภาพ เสียง วิดีโอ กราฟฟิค หรือสื่ออื่นๆ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่ไม่สามารถทำซ้ำและไม่สามารถทดแทนกันได้ภายใต้ระบบบล็อกเชน ผลงานของศิลปินสามารถนำมาสร้างเป็น NFT และนำมาขายแบบมีลิขสิทธิ์โดยสามารถยืนยันเจ้าของผู้ซื้อได้
ปัจจุบัน NFT กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น และในอนาคต NFT มีแนวโน้มที่จะมีเพิ่มขึ้นอีกมาก บริษัท การ์ทเนอร์ (Gartner, Inc.) บริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาชั้นนำของโลก ได้วิเคราะห์ว่าในอนาคต สินทรัพย์ดิจิทัล NFT ที่ใช้กลยุทธ์ Gamification จะขับเคลื่อนองค์กรให้เป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุด 10 อันดับแรกของโลก ดังนั้น NFT จะกลายเป็นวิธีในการสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างทวีคูณ และจะกลายเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ทรงพลังเพื่อใช้เสริมศักยภาพระบบนิเวศดิจิทัลและเพิ่มมูลค่าให้กับองค์กร
งานวิจัยล่าสุดของบริษัทชื่อดัง MarketsandMarkets พบว่าตลาดดิจิทัลคอนเทนต์แบบ
NFT กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบันตลาด NFT ทั่วโลกมีมูลค่ารวม 3 พันล้านดอลล่าห์ และ มีแนวโน้มที่จะเติบโตถึง 4.5 เท่าหรือประมาณ 1.36 หมื่นล้านดอลล่าห์ภายในปี 2027
สำหรับตลาด NFT ในประเทศไทยยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ถือว่ายังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก และ NFT ก็ถือได้ว่าเป็นโอกาสของศิลปินทุกแขนง ที่ศิลปินสามารถแสดงผลงานสะท้อนตัวตนได้เต็มที่ รวมทั้งสามารถเผยแพร่ไปทั่วโลกได้อีกด้วย
แนวคิดและที่มาที่ไปของ FANDOM Application
ช่องว่างของตลาดแฟนคลับในประเทศไทย คือ ไม่มีพื้นที่ หรือแพลตฟอร์มที่เป็นศูนย์กลางในการเชื่อมต่อกันระหว่างแฟนคลับและศิลปิน ทำให้แฟนคลับใช้วิธีการรวมกลุ่มกันเองกระจายตามแพลตฟอร์มต่างๆ และศิลปินไม่สามารถเข้าถึงแฟนคลับทุกคนได้อย่างแท้จริง
ส่วนช่องว่างของตลาด NFT ในประเทศไทย คือส่วนใหญ่เน้นการเป็น Marketplace ไม่มีการเชื่อมต่อหรือ Connect กันระหว่างผู้ขายกับผู้ซื้อ ซึ่งในที่นี้ คือ ศิลปิน และแฟนคลับหรือผู้ที่ชื่นชอบในผลงานของศิลปิน
รวมทั้งรูปแบบของ NFT Marketplace ส่วนใหญ่จะเน้นการซื้อขายอย่างเดียว จึงได้มีการพัฒนารูปแบบของ NFT ให้แตกต่างออกไป ให้เป็น Application ที่เข้าถึงได้ง่าย มีความเอ็นเตอร์เทน ผู้ใช้บริการสามารถเข้ามาใช้บริการและได้รับความสนุกสนาน ตื่นเต้นแตกต่างจากแพลตฟอร์มอื่นๆที่มีในปัจจุบัน ซึ่งเราเรียกว่าเป็น NFT ในรูปแบบ “fun to earn”
จุดแข็งด้านต่างๆ ของ FANDOM Application
FANDOM Application ออกแบบให้ศิลปิน และแฟนคลับสามารถเชื่อมต่อกันได้ ด้วยกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีพจากศิลปินใน Application ที่แฟนคลับสามารถเข้าร่วมได้ในทุกกิจกรรม โดยออกแบบให้มีความเอ็นเตอร์เทน สร้างความสนุกสนาน ตื่นเต้น ผู้ที่เข้าใช้จะรู้สึกไม่น่าเบื่อ แต่จะได้รับความสนุกจากการทำกิจกรรมต่างๆร่วมกับศิลปินที่ตนเองชื่นชอบ รวมทั้งทุกคนที่เข้ามาใช้บริการใน Application ยังสามารถสร้างรายได้จากการเข้ามาสนุกใน Application หรือเราเรียกว่า fun to earn
FANDOM Application เป็นแพลตฟอร์มที่จะเปิดโอกาสให้ศิลปินในทุกแขนง ทุกวงการได้สามารถสร้างผลงานในรูปแบบที่ไม่จำกัด และเป็นช่องทางในการสร้างรายได้ใหม่ที่ศิลปินไม่เคยมีมาก่อน รวมทั้งแฟนคลับเองก็สามารถสนับสนุนศิลปินที่ตัวเองชื่นชอบด้วยการซื้อผลงานของศิลปินที่ถูกต้องตามลิขสิทธิ์ผ่านบน Application FANDOM Application จะเป็น Community ที่ connect ระหว่างแฟนคลับและศิลปินคนโปรด ทุกครั้งที่เข้ามาใช้งาน ผู้ใช้จะได้รับทั้งความสนุก และโอกาสในการสร้างรายได้ เรียกว่าสามารถเปลี่ยนความชื่นชอบให้กลายเป็นรายได้อย่างง่ายๆ
FANDOM Application ใช้ Blockchain ของ Bitkub ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้นำในแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของไทย สำหรับการสร้างและซื้อขาย NFT ใน Application ซึ่งเทคโนโลยี Blockchain เป็นเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยด้านข้อมูลสูง มีการคาดการณ์ว่าในอนาคตเทคโนโลยี Blockchain จะกลายเป็น Backbone ของเทคโนโลยีในด้านความปลอดภัย และเป็นเทคโนโลยีที่ eco-friendly NFT ecosystem ให้ความประหยัดพลังงานอีกด้วย
ขั้นตอนการใช้งาน FANDOM Application
FANDOM Application กำลังอยู่ในการพัฒนาขั้นตอนสุดท้าย จะสามารถเปิดให้ใช้บริการได้ในเดือนสิงหาคมปีนี้ โดยศิลปินจากทุกวงการ ไม่ว่าจะมาจากค่าย หรือแขนงใด ก็สามารถมาเข้าร่วมกับ FANDOM Application ได้ หากสนใจเข้าร่วมแต่ยังไม่มีไอเดียสร้างผลงาน ทาง FANDOM Application จะมีทีมครีเอทีพที่ช่วยในการออกแบบผลงานให้เป็นงานเฉพาะของศิลปินท่านนั้น
สิทธิพิเศษสำหรับศิลปินที่สนใจร่วมลงทะเบียนบน FANDOM Application จะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆมากมายตามประเภทกิจกรรมที่เข้าร่วมใน Fandom Application (รับสมัครจำนวนจำกัด ทั้งนี้เป็นไปตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด)
บุคคลทั่วไปที่สนใจลงทะเบียนสมัครเป็นสมาชิกของ FANDOM Application จะได้รับ Fandom Coin ซึ่งเป็น Utility Token แบบพร้อมใช้ ทันที 100 Coins สำหรับใช้แลกดิจิทัลคอนเทนต์ในเว็บไซต์ www.fandom.co.th และหากแนะนำเพื่อนมาสมัครสมาชิกจะได้รับเพิ่มอีก 25 Coins ต่อท่าน สามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ได้ถึง 31 สิงหาคม 2565 หรือจนกว่าสิทธิ์ครบตามกำหนด
โดยสามารถสแกน QR Code และลงทะเบียนผ่านทาง www.fandom.co.th และติดตามข้อมูลของ FANDOM Application ได้ทาง https://www.facebook.com/FandomThailand
เพิ่มเติมเกี่ยวกับ FANDOM Application
FANDOM Application เป็นบริษัทสตารท์อัพของคนไทย ก่อตั้งโดย คุณสิรโสมย์ บริสุทธิ์สุวรรณ์ ผู้ก่อตั้ง / ผู้บริหารบริษัทสตารท์อัพชื่อดัง และ ผศ.ดร.รัฐกร พูลทรัพย์ ผู้เชี่ยวชาญด้าน Blockchain ของไทย มีผู้ร่วมลงทุนในครั้งแรก ได้แก่
- ท่านสมใจนึก เองตระกูล ผู้ก่อตั้ง SE Biz Group และประธานกรรมการ, กรรมการ ในบริษัทชั้นนำในประเทศไทย
- Illuzion Entertainment Group Club ผู้นำด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และเอ็นเตอร์เทนเมนท์ในจังหวัดภูเก็ต
- คุณธนพล รวยสว่างบุญ นักลงทุน และนักธุรกิจเจ้าของโรงงานอุตสาหกรรมผลิตเครื่องมือแพทย์ – เตาอลูมิเนียมชื่อดังของไทย
- คุณอานนท์ชัย วีระประวัติ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน), บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)
@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp