บล.ทิสโก้ แนะเดือน ส.ค. เลี่ยงลงทุนหุ้นใหญ่ เตือนนักลงทุนต่างชาติเทขายเพิ่มอีก 7,000 ลบ.

50

มิติหุ้น-บล.ทิสโก้แนะเบนเข็มลงทุนหุ้นขนาดกลาง-เล็ก ชี้กองทุน – ต่างชาติมีโอกาสขายหุ้นใหญ่หลังผลประกอบการไตรมาส 2 ออกครบ  พร้อมจับตาดัชนี MSCI ปรับน้ำหนักรอบนี้ลดสัดส่วนหุ้นไทยลงอีก อาจเห็นแรงขายต่างชาติเพิ่มอีก 7,000 ล้านบาท

นายวิวัฒน์ เตชะพูลผล รองกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ทางเทคนิค บล.ทิสโก้ กล่าวถึงภาพรวมตลาดหุ้นไทยในงานสัมมนา TISCO Monthly Guru Updates ว่า ในเดือนสิงหาคม 2561 คาดว่านักลงทุนต่างประเทศและนักลงทุนสถาบันในประเทศจะขายหุ้นขนาดใหญ่ในลักษณะ Sell on Fact หลังบริษัทจดทะเบียนประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 2/2561 เสร็จสิ้น ดังนั้น ในช่วงนี้จึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงการลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ และหันมาให้ความสนใจหุ้นขนาดกลาง-ขนาดเล็กและหุ้นที่ก่อนหน้านี้ราคาไม่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นนัก (Laggards) โดยบล.ทิสโก้ ประเมินว่าดัชนีหุ้นไทยในเดือนสิงหาคมจะมีแนวรับที่ 1,650-1,670 จุด และแนวต้านที่ 1,720-1,740 จุด สำหรับหุ้นเด่นเดือนสิงหาคม 2561 แนะนำหุ้น BTS, CMAN, JWD, ORI, PCSGH และ ROJNA ส่วนใหญ่เป็นหุ้นที่คาดว่าผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะออกมาดีกว่าครึ่งปีแรก

ทั้งนี้ ในเดือนสิงหาคมจนถึงเดือนกันยายน 2561 มีปัจจัยที่ต้องจับตา คือ การปรับน้ำหนักดัชนี MSCI เฟสที่ 2 ซึ่งจะนำหุ้น A-Shares ของจีนเข้ามาคำนวนเพิ่มอยู่ในดัชนี จากครั้งก่อนหน้าที่ได้ปรับน้ำหนักดัชนีไปแล้วในเดือนพฤษภาคม 2561 โดยในครั้งนั้นส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นไทยไปมากถึง 5.2 หมื่นล้านบาททำให้ดัชนีหุ้นไทยปรับลดลงเกือบ 3% สำหรับการปรับน้ำหนักดัชนี MSCI รอบนี้ ทาง Deutsche Bank (DB) ประเมินว่านักลงทุนต่างชาติจะขายหุ้นไทยเพิ่มอีกประมาณ 7,000 ล้านบาท

“แนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยในเดือนสิงหาคมคาดว่าดัชนีจะปรับขึ้นถึงช่วงกลางเดือนโดยมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,720-1,740 จุด จากนั้นจะปรับลงต่อเนื่องจนถึงต้นเดือนกันยายนปัจจัยหลักมาจากนักลงทุนต่างชาติจะเริ่มกลับมาขายสุทธิ ตามการปรับน้ำหนักดัชนี MSCI ที่จะนำหุ้น A-Shares ของจีนเข้ามาคำนวณเพิ่มอีกในเฟส 2 อีกปัจจัยที่เป็นตัวเร่งคือธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมวันที่ 13 กันยายนนี้” นายวิวัฒน์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวดีทั้งจากภาคต่างประเทศและในประเทศ โดยการบริโภคในประเทศขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง ส่วนการส่งออกยังขยายตัวต่อเนื่อง ขณะที่การลงทุนภาครัฐกลับมาขยายตัวได้อีกครั้งและคาดว่าจะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องจนถึงปีหน้า โดยบล.ทิสโก้คาดว่าการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ในปี 2561 จะอยู่ที่ 4.4% ส่วนการเลือกตั้งคาดว่าจะประกาศความชัดเจนได้ภายในเดือนตุลาคม 2561 และคาดว่าจะมีการเลือกตั้งขึ้นภายในเดือนพฤษภาคม 2562 ซึ่งน่าจะทำให้ต่างชาติทยอยกลับเข้ามาซื้อหุ้นอีกครั้ง ซึ่งบล.ทิสโก้ประเมินดัชนีหุ้นไทยปลายปีนี้ที่ 1,800 จุด และขยับขึ้นเป็น 1,850 จุด ในไตรมาส 1/2562

ที่มา:  ฝ่ายนิเทศสัมพันธ์ บมจ. ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป

www.mitihoon.com