Pi Daily เจรจาสหรัฐฯ – จีน หนุนตลาดหุ้นไทยแต่ยังมองเป็นเพียงระยะสั้น ประเมินกลุ่ม ปิโตรเคมี น้ำมัน รับ Sentiment เชิงบวก

40

มิติหุ้น – ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 1160 จุด (+2.8%) ตอบรับเชิงบวกจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 1.64% ได้แรงหนุนจากการที่สหรัฐฯกับจีนบรรลุข้อตกลงกัน

คืนวันศุกร์ที่ผ่านมามิได้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญเพราะนักลงทุนไปให้น้ำหนักกับเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน ข้อมูลล่าสุดพบว่ารัฐมนตรีคลังสหรัฐฯและทูตการค้าของสหรัฐฯยกย่องการประชุมว่าสร้างสรรค์และก่อให้เกิดผล ด้านจีนก็บอกว่าเจรจาครั้งนี้ตรงไปตรงมาลึกซึ้งและสร้างสรรค์ แนวทางถัดไปมีแผนจะเตรียมเจรจานักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะครอบคลุมประเด็นอัตราภาษี สินค้า Technology แต่ก็ยังไม่มีรายละเอียดออกมาว่าจะเป็นเมื่อใด จนกระทั่งช่วงเวลาบ่ายๆตามเวลาประเทศไทยหลายๆสำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานตรงกันว่าจีนและสหรัฐฯตกลงกันว่าจะลดภาษีตอบโต้ระหว่างกันเป็นเวลา 90 วัน โดยสหรัฐฯจะลดภาษีนำเข้าจากจีนเหลือเพียง 10% แต่อย่างไรก็ตามสินค้าที่เกี่ยวข้องกับ Fentanyl จะยังคงอยู่ทำให้เมื่อรวมกันแล้วสินค้าจากจีนจะยังคงถูกเก็บภาษีที่ 30% ส่วนจีนนั้นลดภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯอยู่ที่ 10% ทำให้สินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นปรับขึ้น ราคาทองคำปรับลงอย่างมีนัยยะ ซึ่งน่าจะหนุนตลาดหุ้นไทยในช่วงต้นสัปดาห์ปรับขึ้นแต่อย่างไรก็ตามยังมองเป็นอีกปัจจัยระยะสั้นมากกว่า (สำหรับ SET) ด้วยพื้นฐานเศรษฐกิจไทยที่ยังอ่อนแอ

โดยสัปดาห์นี้รอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจประกอบไปด้วย (1) เงินเฟ้อสหรัฐฯในคืนวันอังคาร Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 2.4%YoY และเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่ 2.8%YoY หากประกาศต่ำกว่าคาดการณ์จะเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นในระยะสั้นถัดมารอติดตาม (2) ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในคืนวันพฤหัส Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 0.2%MoM และในวันเดียวกันก็จะมีการรายงานยอดค้าปลีก (US Retail Sale) Bloomberg Consensus ประเมินว่าจะทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อน นอกจากนี้ในวันดังกล่าวจะมีการให้สัมภาษณ์ของประธาน FED แต่ก็เชื่อว่าอาจมีผลไม่มากนักเพราะนักลงทุนกำลังให้น้ำหนักกับเจรจาการค้า ด้านปัจจัยในประเทศยังคงไม่มีความชัดเจนว่าเมื่อใดไทยจะได้เจรจากับสหรัฐฯ สวนทางกับหลายๆประเทศในเอเชียไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น เกาหลี ประกอบกับเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวต่ำและมีแรงกดดันจากการท่องเที่ยวที่จำนวนนักท่องเที่ยวเริ่มน้อยลง สัปดาห์นี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1200 – 1250 เชิงกลยุทธ์การลงทุนอาจเป็นจังหวะลดพอร์ตการลงทุนแม้มีประเด็นบวกเจรจาการค้าแต่พื้นฐานไทยมิได้แข็งแกร่งและยังไม่แน่ชัดว่าจะได้เจรจากับสหรัฐฯเมื่อใด แต่อย่างไรก็ตามนักลงทุนระยะสั้นอาจเลือก Trading ในหุ้นกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) ปิโตรเคมี (PTTGC IVL) รับจิตวิทยาเชิงบวกจากสหรัฐฯ – จีน

BBL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 160.00 บาท)
แม้การเติบโตของกำไรในปี 2025 จะไม่โดดเด่น และมีความท้าทายเพิ่มขึ้นจากปัจจัยภายนอก เราชอบ BBL (1) งบดุลแข็งแกร่ง (2) Valuation ไม่แพงซื้อขายที่ 0.45x PBV’25E และ PE’25 ที่ 5.7 เท่า (3) ความสามารถในการเพิ่มรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ควบคุมค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ฯ และค่าใช้จ่ายการดำเนินงานเพื่อลดผลกระทบจาก NIM ที่ลดลง และ (4) คาดอัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูง 6.3%

CPAXT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 30.00 บาท)
คาดเห็น Synergy benefits ทยอยรับรู้มากขึ้นในช่วง 2Q25 ขณะที่แนวโน้มการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ช่วงเดือนเม.ย. 2025 ของทั้ง Makro และ Lotus’s ยังคงทรงตัว YoY ถูกกดดันจากยอดขายเครื่องดื่มและยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ลดลงตามสภาพอากาศ รายงานกำไรสุทธิ 1Q25 ที่ 2.6 พันล้านบาท (+7%YoY, -33%QoQ) ใกล้เคียงกับที่เราและ BB consensus คาด หนุนจากยอดขายที่โต 3%YoY อัตรากำไรขั้นต้นรวมขยายตัว 10 bps YoY ค่าใช้จ่ายต่อยอดขายลดลงเล็กน้อย 10 bps YoY จากการค่าใช้จ่ายควบคุมที่ดี

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon